วันนี้ (12 มี.ค.) นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เป็นประธานในการแถลงข่าวเปิดตัว "บ้านฉาง เมืองต้นแบบ 5G แห่งแรกของประเทศไทย" ร่วมกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT โดยมีนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า การพัฒนาเทคโนโลยี 5G นับเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะพัฒนาเทศบาลตำบลบ้านฉางให้กลายเป็นต้นแบบเมืองอัจฉริยะ เปลี่ยนแปลงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ด้วยการสร้างชุมชนปลอดภัย สิ่งแวดล้อมชุมชนยั่งยืน บริการด้านสาธารณสุขและระบบสาธารณะเพื่อการท่องเที่ยวในชุมชนด้วยเทคโนโลยี 5G แห่งแรกของประเทศ
สำหรับเทศบาลตำบลบ้านฉาง จังหวัดระยอง ตั้งอยู่ระหว่างพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เชื่อมต่อทางหลวงหมายเลข 7 หรือมอเตอร์เวย์ ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ 10 ตารางกิโลเมตร เป็นต้นแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart City) แห่งแรก เนื่องจากมีศักยภาพเพียงพอในการเชื่อม 3 ท่าอากาศยาน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ซึ่งในอนาคตพื้นที่ดังกล่าวจะเป็นเขตเศรษฐกิจที่มีมูลค่าสูงในย่าน ASEAN5 ถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญอย่างมากในการพัฒนาให้เป็นเมืองแห่งอนาคตที่อยู่ในพื้นที่ EEC ยกระดับให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต คือ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม ชีวภาพและเคมีชีวภาพ ดิจิทัลและการแพทย์ การบินและโลจิสติกส์ โดยใช้ระบบอัจฉริยะครบวงจรด้วยเทคโนโลยี 5G
ที่ผ่านมา สกพอ. และ NT ได้ติดตั้งอุปกรณ์เพื่อทดสอบระบบเสาอัจฉริยะ 5G (5G Smart pole) โดยสามารถใช้งานได้มากกว่า 10 ฟังก์ชัน เช่น ระบบการตรวจจับระดับสารพิษในอากาศและค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่เทศบาลตำบลบ้านฉาง ตลอด 24 ชั่วโมง และส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ภาครัฐและเอกชนเพื่อเฝ้าระวังและสามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทันที ด้านความปลอดภัย หากประชาชนที่อยู่ในบริเวณพื้นที่ที่มีเสาสมาร์ทโฟน 5G เกิดอุบัติเหตุหรือประสบอันตราย สามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือ (SOS) จากเสาสมาร์ทโฟน 5G ใกล้ตัวหรือแจ้งผ่านแอปพลิเคชันเมืองได้ด้วยตัวเองซึ่งเป็นระบบเรียลไทม์ (Real Time) ช่วยเหลือได้ทันเวลา
นายณัฐวุฒิ ศาสตราวาหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารไร้สาย 2 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NTกล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้วางท่อ เสา สายส่งสัญญาณระบบไฟเบอร์ออปติกสำหรับโครงข่าย 5G โดยเฉพาะเพื่อรองรับการให้บริการผ่านคลื่นสัญญาณย่าน High Band ความถี่ 26 GHz ที่ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่ล่าสุดจาก กสทช. ซึ่งทั้งหมดถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของบริการโทรคมนาคมที่ภาคเอกชนสามารถใช้งานได้ร่วมกัน (Infrastructure Sharing) เพื่อลดการลงทุนซ้ำซ้อนระหว่างภาครัฐกับเอกชนใช้ทรัพย์สินของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด และไม่เป็นการผูกขาดทางธุรกิจ
“ประชาชนสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงระดับความเร็วและแรงกว่าระบบ 4G เดิมมากกว่า 100 เท่า ทำให้ภาครัฐและภาคเอกชนและประชาชนสามารถเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกันได้อย่างสูงสุด โดยได้นำเทคโนโลยี 5G Core ของ Mavenir Systems (Thailand) ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์เครือข่ายคลาวด์เนทีฟแบบครบวงจร (end-to-end) รายเดียวในอุตสาหกรรม” นายณัฐวุฒิกล่าว
นอกจากนี้ NT ยังได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน คือ บริษัท 5จี แคททะลิซท์ เทคโนโลยีส์ จำกัด บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิสโก้ ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) จํากัด ร่วมกันจัดหาเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลกและหลากหลายเพื่อออกแบบ 5G โซลูชันส์ที่ตอบโจทย์ระบบการบริหารจัดการเมืองใช้งานของเมือง เช่น การให้ข้อมูลกิจกรรมต่างๆ ในเมือง การจัดระเบียบการขนส่งและการจราจร ข้อมูลรถโดยสารสาธารณะ พื้นที่สาธารณะที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและระบบไฟทางอัตโนมัติ ระบบกำจัดน้ำเสีย เป็นต้น
“โครงการบ้านฉางจะเป็นเมืองต้นแบบ 5G ที่สำคัญเพื่อขยายผลเป็นการบริหารเมืองอัจฉริยะ (Smart City) แห่งแรกของประเทศไทย ตามหลักการ 7 สมาร์ทของสำนักงานดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DEPA) ในอนาคตอันใกล้นี้” นายณัฐวุฒิกล่าว