นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์การลงทุนทั้งในตลาดเงิน ตลาดทุน ทั่วโลก อาจยังเผชิญความเสี่ยงหรือความผันผวนต่อไปในปี 2564 จากสาเหตุความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกก็ตาม แต่สำหรับภูมิภาคเอเชียกลับพบว่ามีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยธนาคารโลกพบว่า ภูมิภาคเอเชียมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสำคัญด้านอื่นที่สนับสนุนการเติบโตทงเศรษฐกิจ ได้แก่ จำนวนประชากร โดยเฉพาะในตลาดจีน และอินเดีย อีกทั้งบริษัทชั้นนำหลายแห่งในเอเชียทำธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ชิปประมวลผล และเกมออนไลน์
นอกจากนั้นทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund) หรือ IMF ได้มีการคาดกาณ์ การเติบโตในภูมิภาคต่างๆในปี 2564 จะพบว่าภูมิภาคเอเชียคือภูมิภาคที่มีการเติบโตสูงที่สุดหากเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ และหากมองไปในอนาคต ปัจจัยต่างๆ จะเห็นว่าหุ้นเอเชียยังคงมีความน่าสนใจในระยะยาว ต่อการลงทุนในช่วง 10 ปีข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นภาพการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียภายหลังการแพร่ระบาดรอบ 2 ของเชื้อโควิด-19 การขยายตัวของทรัพยากรคนในชั้นกลางที่เป็นปัจจัยสนับสนุนการบริโภคภายในภูมิภาคเอเชีย รวมการ ส่งออกของเอเชียที่ฟื้นตัวภายหลังบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีสำคัญๆ ช่วงปีที่ผ่านมา และราคาหุ้นเอเชียหลายกลุ่มที่มีราคาไม่สูงมากสามารถมองเป็นโอกาสเปิดกว้างสำหรับพอร์ตการลงทุนในเชิงรุก
บลจ.กรุงไทย จึงนำเสนอทางเลือกในการเพิ่มพอร์ตการลงทุนในกองทุนหุ้นเอเชียเพื่อโอกาสสร้างความมั่นคงจากการลงทุนในระยะยาวด้วย กองทุนเปิดเคแทม เอเชีย โกรทอิควิตี้ ฟันด์ (KT-ASIAG) ที่จะเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 19 – 23 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ โดยเป็นกองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมฟีดเดอร์ฟันด์ (Feeder Fund) และกองทุนรวมที่เน้นลงทุนแบบมีความเสี่ยงต่างประเทศ ที่มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน JPMorgan Funds – Asia Growth Fund (กองทุนหลัก) เพียงกองเดียว ในชนิดหน่วยลงทุน (share class) “I” ในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของ กองทุนรวม
กองทุนหลัก JPMorgan Funds – Asia Growth Fund (Class I) บริหารและจัดการโดย JPMorgan Asset Management (Europe) S.à r.l ที่มีประวัติผลการดำเนินงานโดดเด่นยาวนานและสม่ำเสมอ มีธีมและสไตล์การลงทุนในหลักทรัพย์ที่มี“โอกาสเติบโตสูง” โดยปัจจุบันจะมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่สามารถตอบสนองในธุรกิจสมัยใหม่ และ รองรับการเติบโตของจำนวนชนชั้นกลาง ในเอเชีย ที่มาพร้อมกับการบริโภคที่สูงขึ้น และ ธุรกิจที่รองรับ Lifestyle สมัยใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้กองทุนดังกล่าวเหมาะสมกับผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว และยอมรับความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ได้ ซึ่งนักลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนได้ที่ขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท