ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดนมในประเทศส่อแข่งเดือด อ.ส.ค.ชิงนำเปิดเกมเขย่าตลาดรับปีฉลู เตรียมดันผลิตภัณฑ์นมเย็นขายในตลาดโมเดิร์นเทรด พร้อมเร่งติดตั้งเครื่องบรรจุนม UHT แบบไฮสปีด (High Speed) เพิ่ม 2 โรงงาน เพิ่มกำลังผลิตรองรับแนวโน้มการเติบโตนมไทย-เดนมาร์คในตลาด วางเป้าดันยอดปี 64 ทะลุ 1.1 หมื่นล้านบาท
นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ อ.ส.ค.ได้ปรับทิศทางการดำเนินงานของ อ.ส.ค.ใน 3 ด้านให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทั้งภายในและต่างประเทศ ประกอบด้วย ด้านอุตสาหกรรมนม ด้านส่งเสริมด้านการตลาด และด้านกิจการโคนม
สำหรับด้านอุตสาหกรรมนม ขณะนี้ได้เร่งเพิ่มศักยภาพการผลิตโดยติดตั้งเครื่องบรรจุนม UHT แบบไฮสปีด (High Speed) เพิ่มเติมจำนวน 2 เครื่องที่โรงงานนม อ.ส.ค.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และโรงงานนม อ.ส.ค.ภาคใต้ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีกำลังการผลิต 24,000 กล่อง/ชั่วโมง ซึ่งสูงกว่าเครื่องบรรจุเดิม
รวมทั้งได้เร่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องอย่างน้อยปีละไม่ต่ำกว่า 1-2 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มสัดส่วนตลาดธุรกิจตลาดนมพร้อมดื่มดั้งเดิมกับตลาดโมเดิร์นเทรดเป็น 50:50 ภายในปี 2564 โดยหลังจากส่งผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตพร้อมดื่มปราศจากไขมัน ยูเอชที กลิ่นเสาวรสผสมบุก ตราไทย-เดนมาร์ค ชิวดี ออกสู่ตลาดเมื่อกลางปี 2563 ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าว อ.ส.ค.ได้วางตำแหน่งการตลาดจำหน่ายเดิมไว้ที่ Tops Supermarket และกำลังอยู่ระหว่างเจรจาขอจำหน่ายที่ 7-ELEVEN (เซเว่น-อีเลฟเว่น) เพิ่มอีก 1 ช่องทางตลาด
ส่วนการส่งเสริมด้านการตลาด จากการศึกษาพบว่าเทรนด์การบริโภคผลิตภัณฑ์นมภายในประเทศมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น ดังนั้น ภายในปีนี้ อ.ส.ค.จึงมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น เช่น นมพาสเจอไรซ์ โยเกิร์ต นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม หรือดริงกิ้งโยเกิร์ต และไอศกรีม เป็นต้น จำหน่ายผ่านช่องทางการตลาดค้าขายปลีกแบบสมัยใหม่ (Modern Trade) เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดที่มีแนวโน้มต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นไปในทิศทางเดียวกับเทรนด์การบริโภคของต่างประเทศที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์นมเย็นกันมาก
ล่าสุด เมื่อต้นปีได้ส่งนมโยเกิร์ตพร้อมดื่มกลิ่นเลมอน และกลิ่นสตรอว์เบอร์รีเข้าไปวางจำหน่ายใน 7- ELEVEN (เซเว่น-อีเลฟเว่น) ซึ่งก็ได้ผลตอบรับในทางที่ดี
ทั้งนี้ แม้ปีนี้ อ.ส.ค.จะหันมารุกตลาดขยายช่องทางจำหน่ายผ่านตลาด Modern Trade และ Convenience Store มากขึ้น แต่ก็ยังคงให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการขายผ่านระบบการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) ผ่านลาซาด้า (LAZADA) และช้อปปี้ (Shopee) เพื่อตอบสนองความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคยุคปัจจุบันให้ครอบคลุมเป้าหมายมากทุกกลุ่ม เพื่อขยายช่องทางตลาดและเพิ่มรายได้ให้อุตสาหกรรมนมของ อ.ส.ค.ให้มากที่สุด
ส่วนด้านกิจการโคนม ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามมาตรการควบคุมของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่างเข้มงวด รวมทั้งได้บูรณาการความร่วมมือกับบริษัท เบทาโกร จำกัด และบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) ด้านส่งเสริมการเลี้ยงโคนม โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนาฟาร์มโคนมของสมาชิกให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“สำหรับยอดจำหน่ายในปี 2563 ที่ผ่านมา อ.ส.ค.ทำยอดขายได้ 9,500 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายปี 2564 จากการปรับทัพการบริหารและปรับแผนการตลาดเชิงรุกให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เรามั่นใจว่าจะสามารถผลักดันยอดขายได้ตามเป้าคือ 11,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน” นายสุชาติกล่าว