ซัสโก้เผยแผนกลยุทธ์ปี 64 เน้นขยายปั๊มน้ำมันในทำเลที่เหมาะสมเพิ่ม 20 แห่ง พร้อมปรับปรุงสถานีเดิม
ให้ทันสมัยมากขึ้นอีก 50 แห่ง และเพิ่มพันธมิตรธุรกิจ Non Oil โดยเตรียมงบลงทุนไว้รวม 550 ล้านบาท วางเป้ายอดขายปีนี้โตขึ้น 20% และมีกำไรแน่นอน พร้อมเปิดสโลแกนใหม่ “Fuel Your Day เติมพลังให้วันของคุณ”
นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SUSCO เปิดเผยแผนกลยุทธ์ธุรกิจในปี 2564 ว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนปีนี้ไว้ 550 ล้านบาทเพื่อขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มอีก 20 แห่งจากปัจจุบันมีอยู่ 242 แห่ง เน้นในทำเลกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ใกล้ชุมชนเพราะมีความต้องการใช้น้ำมันสูง รวมทั้งจะมีการปรับปรุงสถานีบริการน้ำมันเดิมให้มีภาพลักษณ์ที่ทันสมัยเพิ่มขึ้นอีก 50 แห่งจากปีก่อนปรับปรุงได้น้อยจากผลกระทบโควิด-19
รวมทั้งขยายธุรกิจ Non-Oil ให้มากขึ้นเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับสถานีบริการให้ครบวงจร โดยได้มีแผนการเพิ่มร้านสะดวกซื้อลอว์สัน 108 อีก 10 แห่งในปีนี้, เพิ่มร้านกาแฟ Starbucks และดิโอโร่ รวมไปถึงเพิ่มพันธมิตรร้านอาหาร และร้านฟาสต์ฟูดเพิ่มขึ้นด้วย เช่น KFC, Subway และร้านอาหารประเภทข้าวแกงอีกหลายแห่ง
นอกจากนี้ บริษัทจะมีการใช้สโลแกนใหม่ “Fuel Your Day เติมพลังให้วันของคุณ”
ส่วนผลการดำเนินงานของซัสโก้ในช่วง 3 ไตรมาสของปี 2563 บริษัทฯ มีปริมาณการขายน้ำมันรวมประมาณ 800 ล้านลิตร ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 เป็นจำนวน 238 ล้านลิตร หรือลดลงร้อยละ 23 มีรายได้รวม 12,845 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 เป็นจำนวน 8,249 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 39 โดยสาเหตุที่สำคัญคือ ปริมาณการขายที่ลดลงจากผลกระทบโควิด-19 และราคาขายที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง ส่วนผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 118.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 ที่มีกำไรสุทธิหลังภาษีเงินได้จำนวน 334 ล้านบาท เป็นจำนวน 216 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 65
ด้านธุรกิจน้ำมันส่งออกในปี 2563 ที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทำให้ประเทศต่างๆ ที่เป็นคู่ค้าต่างก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ส่งผลให้ยอดการใช้น้ำมันและยอดขายลดลงตามไปด้วย โดยภาพรวมแล้ว แม้ว่ายอดขายทั้งปีลดลงประมาณ 10% แต่กำไรยังใกล้เคียงกับปี 2562 ซึ่งบริษัทฯ จะยังคงให้ความสำคัญต่อธุรกิจนี้ โดยจะเน้นการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
โดยผลการดำเนินงานในปีนี้บริษัทคาดว่ามียอดขายเติบโตขึ้น 20% จากปีก่อน หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายจากการมีวัคซีนป้องกันทำให้การเดินทางด้วยสายการบินเพิ่มขึ้นดันการใช้น้ำมันอากาศยานเพิ่ม การส่งออกน้ำมันไปประเทศเพื่อนบ้านกลับสู่ภาวะปกติ รวมทั้งราคาน้ำมันในต้นปีนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาเหนือ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้ทั้งปี 2564 บริษัทมีกำไรแน่นอน
นายชัยฤทธิ์กล่าวว่า ส่วนธุรกิจน้ำมันเครื่องบินในปี 2563 เป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการ Lockdown ทั้งในและนอกประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อปริมาณการใช้น้ำมันอากาศยาน โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงเดือนเมษายน ปี 2563 ยอดขายน้ำมันหายไปเกือบ 100% นอกจากนั้น ราคาน้ำมันอากาศยานยังดิ่งลงไปสู่จุดต่ำสุดทำให้เกิด Stock Loss เป็นมูลค่าที่สูง ทำให้ยอดขายทั้งปี 2563 เทียบกับปี 2562 มียอดขายลดลงประมาณ 60% และนับจนถึงปัจจุบันปริมาณการขายน้ำมันเครื่องบินยังกลับมาเพียง 20% เมื่อเทียบกับยอดขายเดิมก่อนช่วงโควิด-19 เท่านั้น แต่โดยภาพรวมธุรกิจน้ำมันเครื่องบินก็ยังทำกำไรได้
ส่วนเทรนด์ใหม่อย่างรถยนต์ไฟฟ้าที่จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นนั้น ปัจจุบันซัสโก้มีสถานี EV Charging ให้บริการ 22 สาขา โดยมีแนวโน้มขยายเพิ่มสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 10 สาขาในปีนี้ สำหรับรถยนต์กลุ่ม BEV และ PHEV คาดว่าในปี 2564 จะมียอดขายประมาณ 4-5 หมื่นคัน หรือขยายตัวประมาณ 20% ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักของตลาด BEV ในอนาคต คือการที่ภาครัฐและเอกชนจะสามารถเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับตลาดในเรื่องของการวางเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ทั่วถึง และแก้ไขข้อจำกัดในเรื่องระยะทางวิ่ง รวมไปถึงการให้การสนับสนุนทางด้านภาษี เป็นต้น ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญคาดว่าจะเกิดขึ้นในอีกประมาณ 5-10 ปีข้างหน้า
นายชัยฤทธิ์กล่าวต่อไปว่า การส่งเสริมการตลาด ซัสโก้ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสมาชิก SUSCO Smart Member ที่ปัจจุบันมีสมาชิก 1.4 ล้านราย ให้เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านรายภายในปี 2564 โดยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาซัสโก้ได้มีการปรับเปลี่ยนมาใช้ช่องทาง Line OA @SUSCO เพื่อความสะดวกในการใช้งานของผู้บริโภค ซึ่งมุ่งเน้นการดูแลลูกค้าสมาชิกด้วยการเพิ่มมูลค่า (Privilege) ต่างๆ ทั้งจากคู่ค้าในสถานีบริการ เช่น ลอว์สัน 108 รวมไปถึงคู่ค้าอื่นๆ ส่วนแคมเปญการตลาด ช่วงไตรมาส 2 และ 3 มีแผนจัดกิจกรรมชิงโชค (Lucky Draw) เพื่อให้สอดคล้องกับสถานีบริการโฉมใหม่ภายใต้แนวคิด "SUSCO Fuel Your Day เติมพลังให้วันของคุณ" เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ในเมืองให้มากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันซัสโก้เปิดให้บริการร้านสะดวกซื้อลอว์สันในสถานีบริการน้ำมันจำนวน 38 สาขา ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มอีกจำนวน 10 สาขา ส่วนร้านกาแฟ Starbucks มีจำนวน 1 สาขา ตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมันซัสโก้ สาขาราชพฤกษ์ โดยปีนี้มีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขาหลานหลวง และสาขาศรีนครินทร์ 3 ในส่วนของร้านอาหารฟาสต์ฟูด KFC DRIVE-THRU มีจำนวน 1 สาขา ที่สถานีบริการน้ำมันซัสโก้ สาขาประชาอุทิศ 1 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ และมีแผนจะเปิดเพิ่มอีกจำนวน 4- 5 สาขาภายในปีนี้
การเตรียมความพร้อมในการรับมือกับโควิด-19 รอบใหม่ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจต้องจัดเตรียมความพร้อมในการดูแลพนักงาน ให้ความสำคัญต่อการป้องกัน และปรับปรุงสถานที่ทำงานให้เหมาะกับยุค New Normal เตรียมความพร้อมในด้านสภาพคล่องของบริษัทฯ ให้มีอย่างเพียงพอที่จะผ่านช่วงวิกฤตนี้ไปได้