โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนคลองตรอน กฟผ. พร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ 16 ธ.ค. 63 เสริมความมั่นคงให้กับระบบไฟฟ้าภาคเหนือ เป็นพลังงานทดแทนที่ได้จากการบริหารจัดการน้ำท้ายเขื่อนกรมชลประทานให้เกิดประโยชน์มีประสิทธิภาพสูงสและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายทิเดช เอี่ยมสาย ผู้ช่วยผู้ว่าการวิศวกรรมและก่อสร้างโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้ดำเนินการเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนคลองตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทาน ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีให้ กฟผ.ดำเนินงานโครงการเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2554 เป็นการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามยุทธศาสตร์การผลักดันส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนของกระทรวงพลังงาน โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ใช้พลังน้ำในการผลิตไฟฟ้า
นายทิเดช เอี่ยมสาย กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนคลองตรอน เป็นโรงไฟฟ้าที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างกรมชลประทานและ กฟผ. เป็นโครงการลำดับที่ 9 ในโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทานที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งอยู่ท้ายเขื่อนคลองตรอน อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ มีขนาดกำลังผลิตติดตั้ง 1.25 เมกะวัตต์ จำนวน 2 เครื่อง รวม 2.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 11.83 ล้านหน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) ช่วยเสริมความมั่นคงทางด้านพลังงานไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ สำหรับโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทานนั้นมีต้นทุนการผลิตถูกกว่าการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนชนิดอื่นๆ ซึ่งมีกระบวนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำ โดยนำน้ำที่เขื่อนจะต้องระบายอยู่แล้วมาผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก่อนระบายลงสู่พื้นที่ท้ายน้ำตามเดิม นับเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่า เกิดความมั่นคงทางพลังงาน และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการผลิต เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ กฟผ.ได้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำท้ายเขื่อนชลประทานแล้วเสร็จจำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย เขื่อนเจ้าพระยา เขื่อนแม่กลอง เขื่อนนเรศวร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนคลองตรอน รวมกำลังผลิตติดตั้ง 87.95 เมกกะวัตต์ นอกจากนี้ กฟผ.กำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก จังหวัดอุตรดิตถ์อีกหนึ่งแห่ง คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนธันวาคม 2564