“สุพัฒนพงษ์” วอนคนไทยร่วมมือรัฐใช้สิทธิ์จับจ่าย ท่องเที่ยวช่วยกันกระตุ้น ศก. ย้ำผู้ใช้สิทธิ์ “ช้อปดีมีคืน” สมัครใช้ “คนละครึ่ง เฟส 2” ไม่ได้ ด้าน ส.อ.ท.มั่นใจรัฐจะคุมโควิด-19 ได้ คาดน้ำท่วมภาคใต้หากลดลงรวดเร็วก็ไม่กระทบกระบวนการผลิต
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า จากมาตรการล่าสุดที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-9) หรือ ศบศ. เห็นชอบ ทั้งเพิ่มปริมาณผู้ใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” เป็น 15 ล้านคน และแก้เงื่อนไขอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” และเพิ่มมาตรการเฟส 2 ในโครงการ “คนละครึ่ง” เริ่มใช้สิทธิ์ 1 ม.ค. 64 เปิดลงทะเบียน 16 ธ.ค. 63 นี้ ยอมรับว่าจะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าจะร่วมมือมากน้อยเพียงใด จึงต้องการให้ประชาชนเข้ามาใช้สิทธิ์ให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม กรณีคนที่เลือกใช้สิทธิ์ “ช้อปดีมีคืน” ก็ไม่สามารถใช้สิทธิ์คนละครึ่งระยะที่ 2 ได้ เพราะต้องสร้างความเป็นธรรมในการได้ประโยชน์กระจายสิทธิ์ให้ทั่วถึง
“อยากชวนให้คนไทยมาใช้สิทธิ์จะได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าออกมาแล้วไม่ช่วยกันใช้ก็คงไม่สามารถจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ โดยในส่วนของโครงการท่องเที่ยวผู้สูงวัยนั้นก็คาดหวังจะทำให้เกิดการพักค้างคืนในโรงแรม รีสอร์ต ในวันธรรมดา จากที่ปัจจุบันห้องพักส่วนใหญ่จะมีผู้พักหลักในช่วงวันศุกร์-อาทิตย์เท่านั้น และใครอยากได้สิทธิ์คนละครึ่งเฟส 2 ก็ต้องเลือกไม่ขอคืนภาษีช้อปดีมีคืน” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการลักลอบตามแนวทางธรรมชาติจากพม่าเข้ามาไทยโดยไม่มีการกักตัว ซึ่งอาจนำมาซึ่งการระบาดโควิด-19 รวมไปถึงปัญหาน้ำท่วมภาคใต้ หากทุกฝ่ายช่วยกันก็เชื่อว่าจะไม่ทำให้เศรษฐกิจกระทบมากนัก โดยส่วนของน้ำท่วมภาคใต้ ทุกฝ่ายและรัฐบาลเร่งเข้าไปร่วมดูแล ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงาน ทั้ง กลุ่ม ปตท. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ได้ ระดมช่วยเหลือถุงยังชีพ และด้านอื่นๆ โดยไม่ต้องมีการสั่งการ
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และกรรมการ ศบศ. กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นรอบใหม่ที่ ศบศ.เห็นชอบล่าสุดก็คาดว่าจะมีส่วนเพิ่มการใช้จ่ายของภาคประชาชน มีผลต่อจีดีพีราว 0.025% ส่วนเรื่องการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ เชื่อมั่นว่าภาครัฐและประชาชนจะร่วมมือกันคุมเข้มได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหากวัคซีนยังไม่มีการนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อคุมเข้มโควิด-19 ได้ การติดเชื้อก็ย่อมเกิดขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา แต่ขึ้นอยู่กับว่าจะร่วมกันคุมเข้มไม่ให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ได้อย่างไร และต้องรักษาให้ทันท่วงที ซึ่งเชื่อมั่นว่าภาครัฐจะคุมสถานการณ์ได้
“กรณีน้ำท่วมในภาคใต้ ทาง ส.อ.ท.ได้ร่วมกันติดตามสถานการณ์เพื่อร่วมมือกันช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยหากน้ำลดอย่างรวดเร็วก็คาดว่าจะไม่กระทบกระบวนนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าด้านการเกษตรเป็นหลัก” นายสุพันธุ์กล่าว