MGR Online - รมว.ยุติธรรม สั่งเรือนจำนครศรีธรรมราชติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ พบพื้นที่อยู่สูงไม่ค่อยน่าห่วง แต่อาจกระทบด้านขนส่ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีฉุกเฉิน
วันนี้ (3 ธ.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวถึงกรณีสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่าตนได้สั่งการให้เรือนจำกลางนครศรีธรรมราชเฝ้าระวังติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในเบื้องต้นจากข้อมูลเรือนจำมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สูงไม่เคยมีประวัติการมีน้ำท่วมขังภายในที่ส่งผลต่อมาตรการการควบคุม แต่อาจได้รับผลกระทบในเส้นทางเข้าออก การนำตัวผู้ต้องขังไปศาล โรงพยาบาล การขนส่งอาหารดิบ เครื่องอุปโภคบริโภค การสื่อสาร พลังงานกระแสไฟฟ้า ตลอดจนการให้บริการญาติและประชาชนที่เกี่ยวข้องได้ โดยสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบัน (2 ธ.ค.) มีน้ำหลากและท่วมขังรอบแนวกำแพงภายนอกสูงประมาณ 20-30 ซม. และถนนเข้าออกเส้นทางหลักของเรือนจำประมาณครึ่งเมตร จักรยานยนต์และรถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แต่ระดับน้ำยังทรงตัวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หากไม่มีฝนตกหนักต่อเนื่องจะสามารถระบายและลดระดับอย่างรวดเร็ว
นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเรือนจำกลางนครศรีธรรมราชได้มีแผนเผชิญเหตุและมาตรการจัดเตรียมยานพาหนะรถยนต์บรรทุกสูง รถควบคุมผู้ต้องขัง รถหุ้มเกราะสูง พร้อมพนักงานขับรถสำรอง สำหรับใช้ในการโดยสารหรือขนส่งปกติและเมื่อมีการร้องขอ เตรียมประสานผู้ประมูลและผู้ประกอบการเพื่อสำรองอาหารดิบ เครื่องอุปโภคบริโภคให้เพียงพอต่อความต้องการ และเตรียมแก้ไขปัญหากรณีมีข้อจำกัดในเส้นทางการขนส่ง ร่วมกับสำนักงานจังหวัดประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อประสารการปฏิบัติเมื่อมีปัญหาขัดข้อง เช่น กรณีต้องการกระแสไฟฟ้าสำรอง หากมีการตัดไฟฟ้า และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรองของเรือนจำขัดข้องหรือไม่เพียงพอ รวมทั้งให้การช่วยเหลือประชาชนในชุมชนรอบบริเวณหรือใกล้เคียงเรือนจำที่ประสบภัย ตามที่ได้เคยปฏิบัติเมื่อครั้งพายุปลาบึก และเฝ้าติดตามประเมินสถานการณ์ กวดขันมาตรการด้านการควบคุมอย่างใกล้ชิด และรายงานผู้บริหารอย่างต่อเนื่อง
“เราต้องให้ความสำคัญในการควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำ ทั้งเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของผู้ต้องขังตามหลักสิทธิมนุษยชน รวมถึงให้ความช่วยเหลือกันประชาชนในบริเวณรอบเรือนจำด้วย และหากมีความจำเป็นหรือภาวการณ์เกินความสามารถในการบริหารจัดการ ได้มีการประสานการสนับสนุนจากเรือนจำและทัณฑสถานใกล้เคียงภายในเขตหรือจากส่วนกลางกรมราชทัณฑ์ต่อไป และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะประเมินความเสียหายและเยียวยาเจ้าหน้าที่ที่อาจได้รับผลกระทบในครั้งนี้ด้วย” นายสมศักดิ์กล่าว