เครือซีพีเตรียมปั้นเทสโก้ โลตัส ต่อยอดการสร้างคุณค่าสู่ผู้บริโภคหลังประสบความสำเร็จล่าสุดกับ แม็คโคร-ซีพีเฟรชมาร์ท ที่คว้าตำแหน่ง “ซูเปอร์มาร์เก็ต” รับผิดชอบสังคมสูงสุด ประจำปี 2563 จากแคมเปญ “ผู้บริโภคที่รัก” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยความร่วมมือของภาคี 3 ฝ่าย ได้แก่ เครือข่ายกินเปลี่ยนโลก, มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค และ องค์การ OXFAM ประเทศไทย เพื่อวัดผลการดำเนินงานของซูเปอร์มาร์เก็ตในไทย มุ่งหวังผลักดันให้อาหารที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ต ดีตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง โดยเป็นอาหารที่ผลิตอย่างเป็นธรรมกับเกษตรกร ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อผู้บริโภค
ครั้งนี้แคมเปญผู้บริโภคที่รักทำการสำรวจโดยแยกเป็น 3 มิติ รวมคะแนนเต็ม 24 คะแนน คือ
1. ความรับผิดชอบต่อสวัสดิการผู้บริโภค เช่น ความปลอดภัยของอาหาร ส่วนประกอบและที่มาของอาหาร กลไกการรับเรื่องร้องเรียน
2. ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับคู่ค้า เช่น การส่งเสริมอาหารยั่งยืน การใช้ยาและสารเคมี การบริหารจัดการน้ำ
3. ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของห้างค้าปลีก เช่น บรรจุภัณฑ์พลาสติก การจัดการน้ำทิ้ง ความสัมพันธ์กับชุมชน
แคมเปญฯ ได้ตรวจสอบซูเปอร์มาร์เก็ตทั้งหมด 8 รายใหญ่ของไทย ได้แก่ เทสโก้ โลตัส (2,000 สาขา), บิ๊กซี (996 สาขา), ซีพี เฟรชมาร์ท (610 สาขา), เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล – ท็อปส์และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ (225 สาขา), แม็คโคร (129 สาขา), วิลล่า มาร์เก็ต (47 สาขา), ฟู้ดแลนด์ (30 สาขา) และ กูร์เมต์ มาร์เก็ต (17 สาขา) — *ข้อมูลจำนวนสาขาจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา ปี 2562
สรุปการสำรวจพบว่า “แม็คโคร”, “เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล – ท็อปส์และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์” และ “ซีพี เฟรชมาร์ท” เป็นแบรนด์ที่ได้รับคะแนนสูงที่สุดคือ 9 คะแนนเท่ากัน รองลงมาคือ เทสโก้ โลตัส 3 คะแนน กูร์เมต์ มาร์เก็ต 2 คะแนน ส่วนบิ๊กซี วิลล่า มาร์เก็ตและฟู้ดแลนด์ ไม่มีคะแนน
สำหรับเทสโก้ โลตัส แม้ว่าปีนี้จะไม่ติดกลุ่มผู้นำ แต่ก็มีโอกาสอย่างมาก ซึ่งหากซีพีสามารถต่อยอดเทสโก้ โลตัส ในการสร้างคุณค่าให้แก่ผู้บริโภคและสังคมได้ เพราะปัจจุบันเอสเอ็มอีไทยจำนวนมากเติบโตเคียงคู่มากับเทสโก้ โลตัส บางรายเริ่มจากการผลิตในครัวเรือน จนปัจจุบันผลิตสินค้ามาตรฐานส่งออก ส่วนคู่ค้าหลายรายก็มียอดขายเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดทุกปี ซึ่งเป็นสิ่งที่เทสโก้ โลตัส ภูมิใจ เพราะนอกจากจะเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าให้ผู้ประกอบการเหล่านี้แล้ว ยังได้ร่วมมือกันพัฒนาวิธีการผลิตและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ทางการตลาด นอกจากนั้นยังมีโครงการให้ความรู้ผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างแข็งแรงอีกหลายโครงการด้วย
การเติบโตของเทสโก้ โลตัส ยังก่อให้เกิดการจ้างงานในท้องถิ่นจำนวนมาก โดยปัจจุบันเทสโก้ โลตัสจ้างพนักงานประจำกว่า 50,000 ตำแหน่ง และมีการจ้างงานผ่านคู่ค้าของเทสโก้ โลตัส อีกกว่า 500,000 คน นับว่าเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจไทย คาดว่าจะสามารถต่อยอดคุณค่าสู่ความยั่งยืนติดอันดับในปีหน้าได้อย่างไม่ยากนัก