CRC พลิกกลับอย่างรวดเร็ว ดันผลประกอบการไตรมาส 3/2563 ฟื้นตัวแบบ V-shape ทำรายได้และกำไรสู่ระดับใกล้เคียงกับก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) เผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2563 พลิกฟื้นกลับมาแบบ V-shape สู่ระดับใกล้เคียงก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19 (ไตรมาส 1/2563) จากปัจจัยหลัก 5 ประการ ได้แก่
1. ความสามารถในการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้และทำให้เกิดขึ้นได้จริง
2. ความเป็นผู้นำ (First Mover) ที่ผันตัวจากค้าปลีกออฟไลน์ (Offline Retailer) สู่การเป็นค้าปลีกออมนิแชนเนล (Omnichannel Retailer) อย่างเต็มรูปแบบ
3. องค์กรและทีมงานที่มีความยืดหยุ่น และปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
4. ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป และการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านบริการออมนิแชนเนล
5. การดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง และการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งภายใต้ความไม่แน่นอน
ด้วยปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลให้รายได้รวมในไตรมาส 3/2563 แตะ 47,573 ล้านบาท เติบโต 15% จากไตรมาสที่แล้ว และคิดเป็นสัดส่วน 89% เทียบกับรายได้ในไตรมาส 3/2562 และพลิกกลับมาทำกำไร 869 ล้านบาท จากการขาดทุน 2,519 ล้านบาทในไตรมาสที่แล้ว
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ถึงปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทาย แต่ CRC ก็ยังมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจโดยรวม พลิกจากขาดทุนจนกลับมามีรายได้และกำไรใกล้เคียงกับช่วงก่อนการเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเราคงผ่านเหตุการณ์นี้มาไม่ได้หากปราศจากพนักงานทุกคนทั้งองค์กรที่ร่วมแรงร่วมใจและทุ่มเททำงานกันอย่างหนัก ทำงานกันเป็นทีม เพื่อช่วยกันผลักดันให้เกิดความสำเร็จที่ดีที่สุด ต้องขอขอบคุณทุกคนเป็นอย่างมาก
พร้อมกันนั้น เรายังได้มีการทรานส์ฟอร์มห้างสรรพสินค้าในเฟสแรก ปรับโฉม (Rebranding) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเมกา บางนา ตามด้วยสาขาอุดรธานี รวมถึงเพิ่มการลงทุนและขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในทุกธุรกิจของ CRC เช่น การเปิดไทวัสดุ สาขาอมตะนคร ในเดือนสิงหาคม, ศูนย์การค้า GO! บวนมาถ็วต ในเดือนกรกฎาคม และซูเปอร์มาร์เกต go! ตามเก่ย ในเดือนสิงหาคม ที่ประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา CRC ยังได้รับอนุมัติให้เข้าซื้อกิจการบริษัท ซีโอแอล จำกัด (มหาชน) หรือ COL เพื่อเสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจฮาร์ดไลน์อีกด้วย
“แม้ยอดขายในไตรมาส 3 ของ CRC จะฟื้นตัวกลับมาแบบ V-shape อย่างเป็นที่น่าพอใจ แต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ เช่น การกลับมาแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม CRC จะยังคงพัฒนาองค์กรและปรับตัวอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจในภาพรวมมีสภาพคล่องมากขึ้น ร่วมผลักดัน SMEs หลายแสนรายภายใต้แพลตฟอร์ม CRC ให้ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และสนับสนุนนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยังคงยึดมั่นที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเช่นนี้” นายญนน์กล่าวปิดท้าย
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีก ซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีกที่สำคัญจำนวน 3,831 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เกต, ไฮเปอร์มาร์เกต, พลาซา และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในรูปแบบออมนิแชนเนล โดยครอบคลุมกลุ่มแฟชั่น ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ซูเปอร์สปอร์ต, Central Marketing Group (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ได้แก่ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม และกลุ่มฟูด ได้แก่ ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, ท็อปส์ พลาซ่า, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 เซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทยที่มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้า รวมกัน 1,952 แห่ง ใน 55 จังหวัด พร้อมทั้งยังดำเนินธุรกิจค้าปลีกในประเทศอิตาลี และประเทศเวียดนาม รวมกัน 136 แห่ง (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563)