รถไฟฟ้าบีทีเอสให้บริการครบ 3,500 ล้านเที่ยวคนแล้ว คิดเป็นระยะทางรวม 100 ล้าน กม. เผย ธ.ค.นี้ เตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีก 7 สถานี ถึงปลายทางคูคต รับผู้โดยสารเพิ่ม 1.5 ล้านคนต่อวัน
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี กล่าวว่า ในเดือนพฤศจิกายน 2563 นี้รถไฟฟ้าบีทีเอสได้เปิดให้บริการผู้โดยสารครบ 3,500,000,000 เที่ยวคน รวมระยะทางกว่า 104,380,000 กิโลเมตร
นับตั้งแต่รถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดให้บริการเที่ยวแรกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2542 จนถึงวันนี้ก้าวสู่ปีที่ 21 บริษัทฯ ได้ยึดมั่นมาตรฐานในการให้บริการด้านความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง พร้อมทั้งช่วยลดปัญหาการจราจร และปัญหามลพิษทางอากาศ ถึงแม้ว่าในช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมาจะเป็นปีที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งเป็นวิกฤตที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนในโลกก็ตาม แต่บริษัทฯ ยังคงอยู่เคียงข้างกับผู้โดยสาร และเราก็สามารถก้าวผ่านปัญหาอุปสรรคด้วยกันมาได้อย่างดีจากความร่วมมือของผู้โดยสารทุกท่าน
ตั้งแต่ปี 2562 รถไฟฟ้าบีทีเอสได้เริ่มทยอยเปิดโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่- คูคต ได้แก่ สถานีห้าแยกลาดพร้าว, สถานีพหลโยธิน 24, สถานีรัชโยธิน, สถานีเสนานิคม, สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และในเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดสถานีเพิ่มอีก 4 สถานี ได้แก่ สถานีกรมป่าไม้, สถานีบางบัว, สถานีกรมทหารราบที่ 11 และสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ รวมระยะทาง 58.42 กิโลเมตร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสาร ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ในเดือนธันวาคมนี้ รถไฟฟ้าบีทีเอสเตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีกจำนวน 7 สถานี ต่อจากสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 59, สถานีสายหยุด, สถานีสะพานใหม่, สถานีโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช, สถานีพิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ, สถานีแยก คปอ. และสถานีคูคต รวมระยะทาง 9.8 กิโลเมตร เพื่อเป็นการขยายเส้นทางส่งต่อความสุข มอบเป็นของขวัญให้แก่ประชาชน ช่วยลดปัญหาการจราจรโดยเฉพาะโซนด้านเหนือซึ่งเป็นประตูสู่กรุงเทพฯ
เนื่องจากตลอดเส้นทางส่วนต่อขยาย ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต มีทั้งสถาบันการศึกษา ห้างสรรพสินค้า สำนักงานราชการ หมู่บ้าน ชุมชน ซึ่งคาดว่าเมื่อเปิดเดินรถไฟฟ้าได้ครบเรียบร้อยแล้วจะช่วยบรรเทาการจราจรให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เชื่อมโยงการเดินทางครอบคลุมถึง 3 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ โดยจะสามารถรองรับผู้โดยสารที่มาใช้บริการเพิ่มขึ้นมากกว่า 1,500,000 เที่ยวคนต่อวันอีกด้วย