xs
xsm
sm
md
lg

“เดอะมอลล์” ทุ่ม 2 หมื่นล้านยกเครื่อง ปรับกลยุทธ์รับศึก “อีโคโนมี ไครซิส”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - โควิด-19 เชื้อร้ายระดับ World War 3 เกิดดิสรัปชันอย่างรุนแรง “เดอะมอลล์” ทุ่ม 20,000 ล้านบาทปรับโฉมรีเทลใหม่ เริ่มเดอะมอลล์ งามวงศ์วานที่แรก เน้นดึงคนเข้าศูนย์อยู่ให้นานที่สุด เชื่อทั้งปีเดอะมอลล์ กรุ๊ป จะมีรายได้ต่ำกว่าปีก่อน 10% โดยเชื่อว่าช่วงท้ายปีจะดีขึ้น

นางศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เดอะมอลล์ดำเนินธุรกิจมากกว่า 39 ปี เพื่อเป็นการฉลองเข้าสู่ทศวรรษที่ 4 ได้รีแบรนดิ้งภาพลักษณ์ใหม่ จาก เดอะมอลล์ อาณาจักรแห่งความสุขทุกครอบครัว สู่ THE MALL LIFESTORE ภายใต้คอนเซ็ปต์ A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE : ชีวิตที่มีความสุขทุกครอบครัว เป็นการปรับโฉมใหม่ครั้งสำคัญที่สุดตั้งแต่ดำเนินธุรกิจรีเทลมา 

ทั้งนี้ เริ่มปรับที่สาขางามวงศ์วานเป็นสาขาแรก โลโก้ใหม่จาก M ริบบิ้นม้วนสีแดง เป็นตัว M แบบเรียบง่าย ดูแข็งแรงร่วมสมัยเป็นสากล และคำว่า LIFESTORE ซึ่งการปรับภาพลักษณ์ใหม่ครั้งนี้เป็นไปตามแผนโรดแมป 5 ปีที่วางไว้ (ปี 2562-2566) โดยจะรีโนเวตอีก 3 สาขา รองรับฐานลูกค้าทุกมุมเมือง ได้แก่ เดอะมอลล์ท่าพระ เดอะมอลล์บางแค ช่วงต้นปี 2564 และอีกภายใน 2 ปีจะรีโนเวตเดอะมอลล์บางกะปิ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2566 และใช้งบประมาณในการรีโนเวตทั้งสิ้นกว่า 20,000 ล้านบาท 

“เดิมตั้งใจเปิดโฉมใหม่สาขางามวงศ์วานตั้งแต่ต้นปี แต่ต้องเลื่อนมาเป็นปลายปีเพราะโควิด-19 ซึ่งมองว่ามีความร้ายแรงระดับ World War 3 ที่ทำให้เกิดดิสรัปชันอย่างรุนแรง จากเดิมที่แข่งขันกับแบบโลคัลสู่การแข่งขันทั่วโลก ซึ่งโควิด-19 นำมาสู่อีโคโนมีไครซิส (Economy Crysis) ซึ่งน่าจะเห็นสัญญาณดีขึ้นปีหน้า และ 2 ตัวนี้เป็นตัวเร่งพฤติกรรมผู้บริโภคให้เปลี่ยนแปลงไป ทางเดอะมอลล์ก็ต้องปรับตัว เช่น รุกอีคอมเมิร์ช, คอลทูออเดอร์ และดีลิเวอรี เป็นต้น เพราะห้างค้าปลีกมีปัญหาต้นทุนสูง แต่ชอปปิ้งออนไลน์กลับโตขึ้น อย่างลาซาด้า เดิมยอดขาย 4-5 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็น 2 แสนล้านบาท ทั้งปีรายได้ทั้งกรุ๊ปน่าจะต่ำกว่าปีก่อน 10%” 


สำหรับภาพลักษณ์ใหม่ของเดอะมอลล์ งามวงศ์วานตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าทุกเจเนอเรชัน ตาม 4 แนวคิด ได้แก่ 1. URBANHOOD LIFESTYLE รังสรรค์ไลฟ์สไตล์ทันสมัย ยกแบรนด์ที่ครบครันมาไว้ที่เดียว 2. HYBRID EXPERIENCE Shopping แบบไร้รอยต่อทุกพื้นที่จัดรูปแบบร้านเป็นแบบ SEAMLESS SHOPPING EXPERIENCE 3. NATURE ENJOYMENTเพลิดเพลินกับธรรมชาติเข้ากับหลายสไตล์อย่างลงตัวทุกพื้นที่ และ 4. NEIGHBOURHOOD COMMUNITY เชื่อมโยงความสัมพันธ์อันดี มอบส่งกิจกรรมดีๆ ให้แก่ชุมชนและทุกคนในครอบครัว 

นางสาวอัจฉรา อัมพุช รองประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า เดอะมอลล์ ไลฟ์สไตล์ งามวงศ์วาน มีพื้นที่รวมกว่า 300,000 ตารางเมตร ใช้งบปรับใหม่กว่า 4,000 ล้านบาท ออกแบบคอนเซ็ปต์ GREEN HOUSE อำนวยความสะดวกสบายครบทุกโหมดไลฟ์สไตล์ ทั้งชอป กิน เล่น เที่ยว เสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของทุกเจเนอเรชัน ด้วย 14 สุนทรียภาพแห่งการชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ เช่น 1. Fashion กับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำกว่า 400 แบรนด์ ทั้งระดับโลกและชั้นนำของประเทศ 2. Beauty กับแบรนด์ชั้นนำระดับเวิลด์คลาสกว่า 150 แบรนด์ 3. Lifestyle ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชัน อย่างร้าน MUJI ที่มาพร้อมโซนร้านกาแฟ 4. Sport Mall ศูนย์รวมจำหน่ายทุกสินค้าและอุปกรณ์กีฬาจากแบรนด์ดังทั่วโลกกว่า 200 แบรนด์ 5. Power Mall กับเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 100 แบรนด์ 

6. Be Trend กับสินค้าไลฟ์สไตล์ 7. The Living ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ กับคอนเซ็ปต์ Nature Market 8. Kids’ Planet ภายใต้คอนเซ็ปต์ World of Imaginative Kids 9. Digital, IT ศูนย์รวมดิจิทัลไลฟ์สไตล์แบรนด์ชั้นนำกว่า 60 ร้าน 10. Gourmet Market ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ ด้วยพื้นที่ 6,000 ตารางเมตร 11. Food&Dining หลากหลายแบรนด์ดังกว่า 200 ร้าน 12. Entertainment & Fundutainment กับ 5 ความบันเทิง อย่าง SFX Cinema, Fantasia Lagoon, Harborland, Jolly Jungle Playland และWonder Planet 13. MCC Hall มาตรฐานระดับสากล กับพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร และ 14. Parking & Facilities ด้วยที่จอดรถกว่า 3,500 คัน พร้อมที่จอดรถแบบอัตโนมัติ 600 คัน รวมถึงสถานีรถตู้โดยสารสาธารณะบริการ 8 สาย 


ล่าสุดทุ่มงบ 200 ล้านบาทจัดกิจกรรมฉลองโฉมใหม่ในวันที่ 26 พ.ย.นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ A HAPPY PLACE TO LIVE LIFE ชีวิตที่มีความสุขทุกครัวเรือน พร้อมจัดโปรโมชันวันที่ 26 พ.ย. 2563-28 ก.พ. 2564

“การปรับโฉมเดอะมอลล์ งามวงศ์วานครั้งนี้เน้นให้ลูกค้าอยู่ที่ศูนย์ฯ นานที่สุด จากเดิมช่วงโควิด-19 คนเดินอยู่ศูนย์ฯ ไม่เกิน 1 ชม. ปัจจุบันอยู่นานมากขึ้นเป็น 1.15 ชม. ตั้งเป้าอย่างน้อย 1.30 ชม. ส่วนทราฟฟิกจากเดิม 3.5 หมื่นคน/วัน เพิ่มเป็น 5-6 หมื่นคนต่อวัน หลังเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 แสนคน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายเดิม สาขางามวงศ์วานมียอดต่อหัวสูงสุด และในปีนี้ยังสูงกว่าสาขาอื่นๆ อีก 10% หรือทั้งปีรายได้สาขางามวงศ์วานน่าจะปิดที่ 5,500 ล้านบาท โต 20%” นางสาวอัจฉรากล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น