จ่อฟันคน อคส.เอี่ยวถุงมือยาง วงในเผยตามเจอตัว “ไอ้โม่ง” ชักใย-สั่งการโกงแล้ว

ผอ.อคส.เผยคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อถุงมือยาง 112,500 ล้านบาทตรวจสอบเสร็จแล้ว คาดได้ผลสอบเร็วๆ นี้ ยันหากมีเจ้าหน้าที่ อคส.เข้าไปเอี่ยวในขบวนการทุจริต นอกจากส่งดำเนินคดีอาญาแล้วจะเล่นงานทางวินัยด้วย โทษสูงสุดไล่ออก วงในแฉผลสอบเจอ “ไอ้โม่ง” อยู่เบื้องหลังการทุจริต ทั้งสั่งการ นัดหมายคน อคส.กับเอกชน สั่งให้เตรียมคลังไว้เก็บถุงมือยาง ระบุจะชงผลสอบให้ “จุรินทร์” พิจารณาด้วย

นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จริง ซึ่งตนได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ที่ดำเนินการโดย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส. ในช่วงเดือน ส.ค. 2563 ได้แจ้งความคืบหน้ามาแล้วว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารสรุปผลการตรวจสอบส่งมาให้ตนพิจารณา คาดว่าจะส่งมาให้ได้ในเร็วๆ นี้ หากผลสอบออกมาว่ามีเจ้าหน้าที่ของ อคส.เกี่ยวข้องกับการทุจริต นอกจากจะส่งดำเนินคดีอาญาแล้ว จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อเอาผิดทางวินัยด้วย

ขณะเดียวกัน อคส.จะเสนอผลการสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ใช้ประกอบการพิจารณาไต่สวนคดีด้วย ซึ่งขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว และได้รับแจ้งจาก ป.ป.ช.ว่าจะรีบทำคดีให้เสร็จโดยเร็ว และน่าจะเอาผิดทางอาญาต่อผู้กระทำความผิดได้แน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเชิงลึกของ อคส.พบว่า เจ้าหน้าที่ อคส.บางคนที่อยู่ในขบวนการจัดซื้อถุงมือยาง ได้เปิดเผยรายชื่อบุคคลสำคัญที่เป็นผู้สั่งการให้จัดซื้อถุงมือยางในครั้งนี้, บุคคลที่เป็นตัวกลางในการนัดพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่ อคส. และบริษัทเอกชน 7 ราย ที่ทำสัญญาซื้อถุงมือยางกับ อคส., ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ในขั้นตอนการดำเนินการ, คำสั่งการให้เจ้าหน้าที่ อคส.จัดเตรียมคลังสินค้าของ อคส.เพื่อจัดเก็บถุงมือยางที่บริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ผู้ผลิตจะส่งมอบให้แก่ อคส. เป็นต้น โดยถือเป็นหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การโยงถึงตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง นอกเหนือจาก พ.ต.อ.รุ่งโรจน์

ทั้งนี้ นายเกรียงศักดิ์เตรียมทำรายงานเรื่องนี้เสนอต่อนายจุรินทร์ และอาจเสนอตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอีก 1 ชุดเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของบุคคลรายนี้ด้วย

ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยของเจ้าหน้าที่ อคส.ที่เกี่ยวข้อง หากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ อคส.อยู่ในขบวนการทุจริตด้วย ก็จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อเอาผิดทางวินัยทันที ซึ่งโทษทางวินัย เช่น ภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดือน ให้ออก ไล่ออก เป็นต้น

สำหรับการทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท เกิดขึ้นในช่วงที่พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เป็นรักษาการผู้อำนวยการ อคส. เมื่อเดือน ส.ค. 2563 โดยได้ทำสัญญากับการ์เดียนโกลฟส์ ผู้ผลิต และผู้ซื้อถุงมือยางจาก อคส. เพื่อไปขายต่ออีก 7 ราย และได้นำเงินของ อคส. 2,000 ล้านบาทจ่ายให้การ์เดียนโกลฟส์เป็นค่ามัดจำสินค้า โดยไม่ผ่านการพิจารณาของบอร์ด อคส. ถือว่าผิดกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เป็นการกระทำโดยมิชอบ ส่งผลให้บอร์ด อคส.มีมติให้นายเกรียงศักดิ์ ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งผู้อำนวยการ อคส. คนใหม่เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2563 ทำหนังสือถึงดีเอสไอ, ป.ป.ช.พิจารณาความผิด และส่งเรื่องให้ ปปง.อายัดเงิน 2,000 ล้านบาท รวมถึงให้ระงับการดำเนินการตามสัญญาทั้งหมด