“บิ๊กตู่" เซ็นคำสั่งเด้ง "พ.ต.อ.รุ่งโรจน์" อดีตรักษาการ ผอ.อคส.ปฏิบัติหน้าที่สำนักนายกฯ “บอร์ด อคส.” ประชุมด่วนสั่งยกเลิกสัญญาซื้อขายถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท ที่ “รุ่งโรจน์” ชงเอง-ไม่ผ่านบอร์ด เหตุเป็นโมฆะ
วานนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 31/2563 ให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า มาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี โดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือน ค่าจ้าง เงินอื่น และสิทธิประโยชน์เดิมที่ได้รับอยู่ จนกว่านายกฯจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ 14 ก.ย. 2563
โดยคำสั่งย้ายดังกล่าว คาดว่าเป็นเพราะ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการ อคส.ได้นำเงินของ อคส.ไปซื้อถุงมือยางมูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยที่ไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ อคส. (บอร์ด อคส.)
ต่อมา นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานบอร์ด อคส.ได้เรียกประชุมบอร์ดเป็นการเร่งด่วนเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และมีมติให้ระงับการจัดซื้อถุงมือยาง และยกเลิกสัญญา เพราะถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ เนื่องจากรักษาการ ผอ.อคส.ไม่มีอำนาจอนุมัติงงบประมาณเกินกว่า 25 ล้านบาท หากเกินกว่านั้น ต้องเสนอให้ประธานบอร์ด อคส.และบอร์ดพิจารณาแต่ครั้งนี้วงเงินถึง 2,000 ล้านบาท และไม่ได้เสนอให้บอร์ดพิจารณา ทั้งนี้ บอร์ดยังได้มอบอำนาจให้ นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ.อคส.คนใหม่ แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้อายัดเงินในบัญชีที่ อคส.ได้โอนให้กับบริษัทผู้ผลิตถุงมือยาง และให้ตรวจสอบเส้นทางเงิน เพราะการดำเนินการของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เป็นการกระทำการลุแก่อำนาจโดยพลการ ไม่ผ่านที่ประชุมบอร์ด และไม่รายงานให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ รับทราบ และยังสั่งการให้ผู้อำนวยการ อคส.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งได้แต่งตั้งแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563
ด้าน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นได้ทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย ไม่ได้มีการทุจริตแต่อย่างใด และเป็นความตั้งใจที่จะล้างขาดทุนให้กับ อคส. โดยการจัดซื้อถุงมือยางเพราะมีผู้มาสอบถาม อคส.ว่าจะจัดหาถุงมือยางจำนวน 500 ล้านกล่องให้ได้หรือไม่ เพื่อนำไปส่งออกสหรัฐฯ และยุโรป เห็นว่ามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ จึงติดต่อผู้ผลิตไปหลายราย และมาได้บริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ที่เสนอราคามากล่องละ 225 บาท รวมมูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยให้ อคส.ชำระเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาส่งมอบ 2 ปี ส่วนที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ดเพราะเป็นกรณีเร่งด่วน จึงได้เวียนขอเป็นมติเป็นการเร่งด่วนก่อนจัดซื้อ และมีการทำสัญญาถูกต้อง
วานนี้ (17 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ออกคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 31/2563 ให้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง องค์การคลังสินค้า มาปฏิบัติหน้าที่ในกรอบอัตรากำลังชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี โดยบรรจุและแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือน ค่าจ้าง เงินอื่น และสิทธิประโยชน์เดิมที่ได้รับอยู่ จนกว่านายกฯจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น สั่ง ณ วันที่ 14 ก.ย. 2563
โดยคำสั่งย้ายดังกล่าว คาดว่าเป็นเพราะ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ในช่วงที่อยู่ในตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการ อคส.ได้นำเงินของ อคส.ไปซื้อถุงมือยางมูลค่า 2,000 ล้านบาท โดยที่ไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ อคส. (บอร์ด อคส.)
ต่อมา นายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานบอร์ด อคส.ได้เรียกประชุมบอร์ดเป็นการเร่งด่วนเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และมีมติให้ระงับการจัดซื้อถุงมือยาง และยกเลิกสัญญา เพราะถือว่าสัญญาเป็นโมฆะ เนื่องจากรักษาการ ผอ.อคส.ไม่มีอำนาจอนุมัติงงบประมาณเกินกว่า 25 ล้านบาท หากเกินกว่านั้น ต้องเสนอให้ประธานบอร์ด อคส.และบอร์ดพิจารณาแต่ครั้งนี้วงเงินถึง 2,000 ล้านบาท และไม่ได้เสนอให้บอร์ดพิจารณา ทั้งนี้ บอร์ดยังได้มอบอำนาจให้ นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผอ.อคส.คนใหม่ แจ้งความต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ให้อายัดเงินในบัญชีที่ อคส.ได้โอนให้กับบริษัทผู้ผลิตถุงมือยาง และให้ตรวจสอบเส้นทางเงิน เพราะการดำเนินการของ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ เป็นการกระทำการลุแก่อำนาจโดยพลการ ไม่ผ่านที่ประชุมบอร์ด และไม่รายงานให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ รับทราบ และยังสั่งการให้ผู้อำนวยการ อคส.แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงด้วย ซึ่งได้แต่งตั้งแล้วเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2563
ด้าน พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นได้ทำตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย ไม่ได้มีการทุจริตแต่อย่างใด และเป็นความตั้งใจที่จะล้างขาดทุนให้กับ อคส. โดยการจัดซื้อถุงมือยางเพราะมีผู้มาสอบถาม อคส.ว่าจะจัดหาถุงมือยางจำนวน 500 ล้านกล่องให้ได้หรือไม่ เพื่อนำไปส่งออกสหรัฐฯ และยุโรป เห็นว่ามีโอกาสที่จะทำกำไรได้ จึงติดต่อผู้ผลิตไปหลายราย และมาได้บริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ที่เสนอราคามากล่องละ 225 บาท รวมมูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยให้ อคส.ชำระเงินล่วงหน้า 2,000 ล้านบาท และมีระยะเวลาส่งมอบ 2 ปี ส่วนที่ไม่ได้ผ่านการพิจารณาของบอร์ดเพราะเป็นกรณีเร่งด่วน จึงได้เวียนขอเป็นมติเป็นการเร่งด่วนก่อนจัดซื้อ และมีการทำสัญญาถูกต้อง