xs
xsm
sm
md
lg

“วราวุธ” กำชับคณะ กก.ผู้ช่วย รมว.รับมือแก้ PM 2.5-ภัยแล้ง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำคณะผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงฯ ร่วมให้การต้อนรับคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี หน่วยงานของรัฐทุกกระทรวง ทบวง กรม รวมถึงรัฐวิสาหกิจ และองค์การของรัฐ ในโอกาสตรวจเยี่ยมและประชุมคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ครั้งที่ 5/2563 ที่กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม โดยในการประชุมครั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาหารือแก้ไขปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่กระทบต่อการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลและภารกิจของกระทรวงฯ ให้สามารถดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความอยู่ดีกินดีและประโยชน์สูงสุดที่ประชาชนจะได้รับ

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวหลังการประชุมว่า วันนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีได้มีการประชุมนอกสถานที่ ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วันนี้เราได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีมาตรวจและเยี่ยมเยียนชาวกระทรวงทรัพย์ฯ ส่วนตัวในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตอนท้ายได้ฝากการบ้านคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ว่าจากนี้ไปสิ่งที่เรากำลังเผชิญจะมีเรื่อง PM 2.5 เพราะว่าตอนนี้ปลายฝนต้นหนาวกำลังเข้ามา ต่อจากนั้นจะเป็นปัญหาภัยแล้ง มีพายุเข้ามาหลายลูกก็จริงอยู่ แต่เขื่อนหลายเขื่อนปริมาณน้ำยังไม่เพียงพอ

“ปีหน้าสถานการณ์ภัยแล้งคาดว่าน่าจะมีความน่าเป็นห่วงมากกว่าปีนี้ ผมเองก็ได้ฝากทางคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีให้กำชับในส่วนงานที่ท่านดูแล อย่างเช่น PM 2.5 กระทรวงคมนาคม สาธารณสุข มหาดไทย อุตสาหกรรม หรือแม้แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการที่จะกวดขันบังคับใช้กฎหมายกันอย่างเต็มที่ เพราะว่าเวลาที่มีปัญหา PM 2.5 ขึ้นมานั้นกระทบต่อพี่น้องประชาชนในทุกๆ พื้นที่  และภัยแล้ง ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพย์ฯ เอง เราก็มีการบ้านที่ต้องเร่งทำกันอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันภัยแล้งที่หนักหนาสาหัสสากันไปกว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”

นอกจากนี้ คณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรียังได้รับทราบการดำเนินงานเรื่องที่สำคัญๆ เกี่ยวกับภารกิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต้องบูรณาการความร่วมมือจากกระทรวงต่างๆ ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการธรณีพิบัติภัยทั้งระบบ การบริหารจัดการแหล่งมรดกทางธรณีวิทยาเพื่อการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนผ่านแนวทางอุทยานธรณี การสำรวจและประเมินศักยภาพทรัพยากรแร่ในทะเล การจัดการน้ำเสียชุมชนและการจัดเก็บค่าบริการบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ อีกทั้งได้ให้ข้อเสนอแนะเรื่องการนำเข้าขยะพลาสติก การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินของประชาชน และการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทที่ดิน กรณีอุทยานแห่งชาติกำหนดแนวเขตที่ดินทับซ้อนกับที่อยู่อาศัย รวมถึงที่ดินทำกินของประชาชน ในคราวประชุมนี้อีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น