กาญจนบุรี - ฝนตกหนัก แต่น้ำ 2 เขื่อนยักษ์เมืองกาญจน์ยังน้อย หวั่นกระทบภัยแล้งปีหน้า ส่วนน้ำตกเอราวัณกระแสน้ำเริ่มลด แต่ยังปิดให้บริการนักท่องเที่ยว ด้าน สถานการณ์น้ำท่วม หากไม่มีพายุลูกใหม่ตกซ้ำ คาดเข้าสู่สภาวะปกติในเร็วๆ นี้
จากกรณีนายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ประกาศปิดน้ำตกเอราวัณทั้ง 7 ชั้นเป็นการชั่วคราว เนื่องจากน้ำป่าจากพายุดีเปรสชัน ระดับ 2 ได้ไหลหลากมาจากลำห้วยม่องไล่ กับลำห้วยอมตลา ที่เป็นป่าลำต้นเข้าท่วมน้ำตก ซึ่งกระแสน้ำไหลรุนแรงมาก ทำให้สภาพน้ำที่เคยสวยใสกลายเป็นสีขุ่น ซึ่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณได้ประกาศปิดเมื่อวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (19 ต.ค.) นายพีรวัฒิ สิโรตม์พิพัฒ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเอราวัณ หลังเกิดเหตุตน และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้สับเปลี่ยนกำลังกันเฝ้าระวังถึงสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยตลอดทั้งคืนปริมาณฝนได้ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทำให้เช้าวันนี้สถานการณ์น้ำป่าที่ไหลหลากภายในบริเวณน้ำตกทั้ง 7 ชั้นที่มีความรุนแรง เริ่มเบาและลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ทางอุทยานฯ จะยังคงปิดให้การบริการแก่นักท่องเที่ยวต่อไป โดยจะเฝ้าติดตามการรายงานสภาพดินฟ้าอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในระยะเวลา 1-2 วันข้างหน้านี้ ไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก สถานการณ์ก็คงจะเข้าสู่สภาวะปกติ หากอุทยานฯ พร้อมเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเมื่อไหร่ จะประกาศให้ทราบต่อไป โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้น ตนได้รายงานให้นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผอ.สบอ.3 (บ้านโป่ง) และผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถึงแม้จังหวัดกาญจนบุรีจะได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุดีเปรสชัน และพายุดีเปรสชัน (ระดับ 2) ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค.และ วันที่ 16-19 ต.ค.63 จากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ เช่น พื้นที่ อ.ห้วยกระเจา อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.ท่าม่วง อ.ท่ามะกา อ.ศรีสวัสดิ์ และ อ.บ่อพลอย เป็นต้น ซึ่งหากไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามาอีก สถานการน้ำท่วมก็คงจะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็วๆ นี้
แต่สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือ สถานการณ์ภัยแล้งในปี พ.ศ.2564 ที่จะถึงนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าไปกักเก็บภายในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ และเขื่อนวชิราลงกรณ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นั้นมีปริมาณที่น้อยมาก
โดยเฉพาะเขื่อนวชิราลงกรณ พบว่า ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อนเพียง 4,677.85 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 52.80% จากปริมาณน้ำกักเก็บสูงสุดที่ 8,860 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้เพียง 1,665.85 ล้าน ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 28.49% นับเป็นปริมาณน้ำน้อยมากหากเปรียบเทียบกับปริมาณน้ำที่มีให้ใช้ในรอบหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับเขื่อนศรีนครินทร์ พบว่า วันนี้มีปริมาณน้ำที่กักเก็บได้ที่ 12,854.21 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 72.44% โดยมีปริมาณน้ำที่สามารถใช้ได้อยู่ที่ 2,589.21 คิดเป็นร้อยละ 34.62% เท่านั้น
จากสถานการณ์น้ำที่มีอยู่ทั้ง 2 เขื่อน ทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ มีความวิตกกังวลใจไม่น้อย เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี พ.ศ.2564 โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำในภาคการเกษตร รวมทั้งด้านอุปโภคบริโภค ซึ่งจะต้องมาลุ้นกันว่าจะมีพายุลูกใหม่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีอีกหรือไม่
หากไม่มี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องประกาศเตือนและรีบทำความเข้าใจกับประชาชน ในการวางแผนตั้งรับโดยเร็ว เพื่อที่จะทำให้ประชาชน พร้อมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด และให้ภาคเกษตรกรวางแผนปลูกพืชทางการเกษตรที่ได้ผลประโยชน์ในระยะสั้นและประหยัดน้ำมากที่สุด ทั้งหมดก็เพื่อลดปัญหาและความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้งปีหน้า