กาญจนบุรี - นายอำเภอห้วยกระเจาสั่ง นายกสระลงเรือ ลงพื้นที่ช่วยเหลือ ประชาชนด่วน หลังเจอพิษพายุดีเปรสชันถล่ม จมบาดาลรอบ 2 ส่วน รร.บ้านบนเขาแก่งเรียง ไม่น้อยหน้าโดนรอบ 2 เช่นกัน ส่วนจะเปิดเรียนได้หรือไม่ต้องรอดูสถานการณ์
จากกรณี ร.ต.นายพงศธร ศิริสาคร รองผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี/ผู้อำนวยการจังหวัด ได้มีโทรสารในราชการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ด่วนที่สุด ที่ กจ (กปภจ) 0021/ว 32 ลงวันที่ 16 ตุลาคม ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 14 หน่วยงาน
ประกอบด้วย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 17 ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 8 ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาญจนบุรี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงกาญจนบุรี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงชนบทกาญจนบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขากาญจนบุรี ผู้อำนวยการโครงการชลประทานกาญจนบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี เกษตรจังหวัดกาญจนบุรี ประมงจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอทุกอำเภอ นายกเทศมนตรีเมืองทุกแห่ง
ทั้งนี้ ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ผลกระทบจากพายุดีเปรสชัน ระดับ 2 ที่จะก่อให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง และ ดินโคลนถล่ม ระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม 2563 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด วันนี้ (17 ต.ค.) ว่าที่ ร.ต.ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ได้สั่งการให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ในพื้นที่อำเภอห้วยกระเจา เร่งดำเนินการลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้น
โดย ว่าที่ ร.ต.ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจา เปิดเผยว่า ฝนได้ตกหนักติดต่อกันมาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำไหลหลากลงในที่ลุ่ม ทำให้มวลน้ำภายในลำห้วยไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและไร่นาประชาชน และเอ่อล้นไหลข้ามถนนสายตลาดใหม่-เลาขวัญ บ้านห้วยลึก หมู่ที่ 6 ต.สระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา และเส้นทางสัญจรภายในหมู่บ้านของตำบลสระลงเรือได้รับความเสียหายหลายจุด
ตนได้ประสานนายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีตำบลสระลงเรือ เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นการเร่งด่วน ด้วยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำให้แก่วัดสระลงเรือ เพื่อสูบน้ำออกจากสระที่ไหลเข้าท่วมภายในเรือสุพรรณหงส์แหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง
พร้อมประสาน พ.ท.ราชพล ทองอารีย์ ผบ.ป.9 พัน.109 เพื่อส่งกำลังและขอสนับสนุนเรือท้องแบน เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนท้องที่หมู่ 8 บ้านพุบอน เนื่องจากเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านถูกกระแสน้ำเซาะขาดเสียหาย ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรเข้าออกได้
นอกจากนี้ ยังได้นำรถแบ็กโฮไปเปิดทางน้ำเพื่อให้ระบายน้ำได้อย่างรวดเร็วขึ้น ซ่อมแซมถนนสายบ้านกรอกตาโพธ์ หมู่ที่ 12 ซึ่งโดนน้ำเซาะขาด โดยเทศบาลตำบลสระลงเรือได้แก้ไขเบื้องต้นเพื่อให้ประชาชนสามารถผ่านไปมาได้แล้ว
สำหรับสถานศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากการถูกน้ำท่วมคือ ภายในบริเวณโรงเรียนบ้านสระจันทอง หมู่ 5 ต.สระลงเรือ ซึ่งบุคลากร ครู และนักเรียน รวมทั้งชาวบ้านได้ช่วยกันบรรจุทรายใส่กระสอบเพื่อมาวางเป็นแนวป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าอาคารเรียนและอื่นๆ
ขณะเดียวกัน นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีตำบลสระลงเรือ กล่าวว่า จากการติดตามการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทราบว่า ฝนจะตกหนักติดต่อกันไปจนถึงวันที่ 19 ต.ค.63 ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่า มวลน้ำจะยังไม่กลับเข้าสู่สภาวะปกติใน 1-2 วันนี้อย่างแน่นอน สำหรับความเสียหายหลังจากที่น้ำลดแล้วทางเทศบาลจะเปิดรับแจ้งความเสียหายเพื่อช่วยเหลือ พร้อมออกสำรวจถนนหนทางที่ชำรุดเพื่อจะได้ซ่อมแซม
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงพี่น้องประชาชนชาวตำบลสระลงเรือทั้ง 17 หมู่บ้าน ผ่านสื่อมวลชนว่า หากมีสถานการณ์เร่งด่วนที่ต้องการความช่วยเหลือในทันท่วงที ขอให้ติดต่อมาหาตนโดยตรงที่เบอร์โทรศัพท์ 06-1595-4598 และเบอร์ 08-4802-4510 รองปลัดเทศบาลตำบลสระลงเรือ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่เทศบาลตำบลสระลงเรือ สถานการณ์น้ำท่วมจากพายุดีเปรสชัน ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 7-9 ต.ค. สถานการณ์เพิ่งจะเข้าสู่สภาวะปกติเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา ผ่านมาได้เพียงแค่ 3 วัน ก็มาเกิดน้ำท่วมจากพายุดีเปรสชัน (ระดับ 2) อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้คาดว่าจะมีพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ส่วนสถานการณ์บริเวณโรงเรียนบ้านบนเขาแก่งเรียง หมู่ 3 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ที่ถูกน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่และอาคารเรียน และอาคารประกอบอื่นๆ เป็นเหตุทำให้นายอภินันท์ ลิ้มกุล ผู้อำนวยการโรงเรียน ออกประกาศหยุดเรียนด้วยเหตุพิเศษ ขึ้นระหว่างวัน ที่ 12-13 ต.ค.63 ที่ผ่านมา
วันนี้ (17 ต.ค.) พายุดีเปรสชัน ระดับ 2 ได้ตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุทำให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมอาคารเรียน และอาคารประกอบอื่นๆ อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระดาน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน พร้อมคณะครูและนักเรียน ได้เร่งช่วยกันกรอกทรายใส่ถุงปุ๋ยมาเรียงเป็นแนวกันเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าอาเรียนมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนภายในวันจันทร์ที่ 19 ต.ค.นี้ จะสามารถเปิดเรียนได้ตามปกติหรือไม่นั้น จะต้องรอดูสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง