ผู้จัดการรายวัน360- “สมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง” ชี้โอกาสและทางรอดผู้ประกอบการไทยยุค New Normal ชูแพลตฟอร์มทีวีโฮมช้อปปิ้งตอบโจทย์ “ช้อปปิ้งไร้รอยต่อ ต้นทุนการตลาดต่ำ ไม่ต้องเก็บสต๊อกมาก” ประเมินภาพรวมธุรกิจ 9 เดือนแรกปีนี้ ทะลุ 14,000 ล้านบาทเติบโต 40% รับผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรม หลัง Covid-19 ผู้บริโภคเลือกช้อปสินค้าในช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้งเพิ่มขึ้น
นายธนะบุล มัทธุรนนท์ นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจทีวี โฮมช้อปปิ้งช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มีมูลค่าถึง 14,000 ล้านบาท เติบโต40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าตลาดรวม 10,700ล้านบาท สวนกระแสเศรษฐกิจชะลอตัว โดยมองว่าปัจจัยการเติบโตมาจากพฤติกรรมของคนไทยที่ปรับเปลี่ยนสู่วิถีชีวิตใหม่
ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรค Covid-19 และช่วงล็อกดาวน์ ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาเลือกซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์มทีวีโฮมช้อปปิ้งและแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความสะดวกสบาย สามารถชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ มีบริการจัดส่งสินค้าถึงปลายทาง รับประกันคืนสินค้า
โดยคาดว่าภาพรวมทีวีโฮมช้อปปิ้งในปี2563นี้ น่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากภายหลังเกิดโรคระบาด Covid-19 แพลตฟอร์มดังกล่าวสามารถขยายฐานลูกค้ามากขึ้นและเชื่อว่าจะเป็นลูกค้าประจำที่มีการซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับธุรกิจทีวีโฮมช้อปปิ้งมีจุดเด่นด้านการนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ ช่องทางทีวีดิจิทัลที่ออนแอร์ในช่วงเวลาโฆษณา ช่องทางทีวีดาวเทียมที่เป็นรูปแบบช่องโฮมช้อปปิ้ง 24 ชั่วโมงและช่องทางออนไลน์ จึงสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมและสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อให้แก่ผู้ซื้อ
นอกจากนี้ยังมีจุดแข็งด้านการสร้างคอนเทนต์นำเสนอผลิตภัณฑ์และความถี่การออกอากาศ รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นที่น่าสนใจ จึงทำให้ทีวีโฮมช้อปปิ้งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มขายสินค้าที่ทรงพลัง สามารถกระตุ้นผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อสินค้าแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังเป็นช่องทางการจำหน่ายที่มีค่าใช้จ่ายและต้นทุนการบริหารจัดการต่ำกว่าเมื่อเทียบกับช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เนื่องจากไม่จัดเก็บค่าแรกเข้าผลิตภัณฑ์ใหม่ ไม่จำเป็นต้องสต๊อกสินค้าปริมาณมาก ดังนั้นผู้ประกอบการจึงสามารถบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างคล่องตัว
นอกจากนี้ ทีวีโฮมช้อปปิ้งยังทำหน้าที่เป็นสื่อและโฆษณาประชาสัมพันธ์ในตนเอง สามารถนำเสนอสินค้าและทำตลาดตรงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกับการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพภายใต้ กลยุทธ์ “Sale & Marketing” ที่สามารถดึงดูดและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อแบบเรียลไทม์ ปัจจุบันธุรกิจทีวีช้อปปิ้งมีฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ ทั้งกลุ่ม Baby Boomer และกลุ่ม Gen X ซึ่งยังมีพฤติกรรมรับชมทีวีเป็นสื่อหลัก และอยู่ในช่วงเรียนรู้การสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ จึงเป็นโอกาสและทางรอดของผู้ประกอบการที่ต้องการต่อยอดธุรกิจ โดยการผสานช่องทางออฟไลน์มาสู่ออนไลน์หรือทีวีโฮมช้อปปิ้ง หรือที่เรียกว่า Omni Channel เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในทุกช่องทาง
ส่วนเทรนด์สินค้าบนทีวีโฮมช้อปปิ้งพบว่า กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร อาหารเสริม เครื่องครัวและอุปกรณ์ออกกำลังกาย เป็นสินค้าที่มาแรง เนื่องจากโรค Covid-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพ ขณะที่สินค้าที่จะเป็นเมกะเทรนด์ ได้แก่ สินค้านวัตกรรมที่เหมาะกับผู้สูงอายุ สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่คาดว่าจะมีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้น
นอกจากนี้การทำตลาดผ่านทางช่องทางทีวีโฮมช้อปปิ้ง มีการพัฒนากลยุทธ์การตลาดใหม่ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ที่จัดแสดงแฟชั่นโชว์แบบไลฟ์สตรีม คลิปวิดีโอแบบสั้น และการถ่ายทอดสดวิดีโอสตรีมมิ่งและแชทโต้ตอบกับผู้ชม ซึ่งถือเป็นสีสันใหม่ๆ อีกด้วย.
