ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยกระดับการให้บริการสาขาของธนาคารที่ยังเน้นย้ำลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centricity) ด้วยการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ควบคู่ไปกับการให้บริการโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของทุกฝ่ายอย่างสูงสุดในการรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยมีมาตรการดูแลที่รองรับสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและในระยะยาว พร้อมปรับกระบวนทัศน์การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ตอกย้ำแนวคิด ‘Make Life Simple’ ของกรุงศรีที่สอดคล้องกับ ‘วิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่’ หรือ ‘New Normal’ พร้อมมุ่งพัฒนานวัตกรรมทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพและทักษะพนักงานสาขาในบทบาทการเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขายธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 นับเป็นวิกฤตครั้งใหญ่ที่ส่งผลกระทบผู้คนทั่วโลกในทุกมิติทั้งด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคม อีกทั้งยังเป็นตัวเร่งให้เกิดวิถีการใช้ชีวิตปกติในรูปแบบใหม่หรือที่เรียกว่า New Normal ซึ่งภาคธุรกิจต้องปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจเพื่อรับมือความเปลี่ยนแปลงนี้เช่นกัน
ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 กรุงศรีได้ออกมาตรการเชิงรุกในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นและยังคงดำเนินต่อไปอย่างเคร่งครัดโดยคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า พนักงาน และผู้มาติดต่อเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการที่สาขาของธนาคาร ซึ่งเรายังคงเน้นย้ำทั้งมาตรการด้านสุขอนามัยของลูกค้าและพนักงาน เช่น การวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย ติดตั้งเจลแอลกอฮอล์ประจำจุดบริการ การอบโอโซนและฆ่าเชื้อโรค นอกจากนี้ เรายังเพิ่มมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ด้วยการจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ กำหนดระยะห่างระหว่างบุคคล การเว้นที่นั่งคอย การติดตั้ง Counter Shield ระหว่างลูกค้าและพนักงานประจำเคาน์เตอร์ เป็นต้น”
“สาขาธนาคารยังคงเป็นช่องทางหลักสำคัญระหว่างประชาชนและภาคการเงินไทยแม้ว่าเราจะก้าวสู่ New Normal ก็ตาม แต่บทบาทสำคัญของพนักงานสาขาจะเปลี่ยนไปเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ในขณะที่ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ซึ่งต่อไปกรุงศรีจะใช้กระบวนการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ที่ผสานเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ สร้างประสบการณ์ที่ดีจาก Omni Channels ให้เกิดขึ้น เพื่อสอดรับต่อวิถีชีวิตปกติรูปแบบใหม่หลังวิกฤตโควิด-19” นายพงษ์อนันต์กล่าวเพิ่มเติม