ผู้จัดการรายวัน 360 - ลาซาด้าเปิดตัวบริการการันตีการจัดส่งสินค้า LazMall เป็นรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้นักชอปไทยวางใจได้ในเรื่องการจัดส่งที่รวดเร็ว และได้รับค่าชดเชยคืนอัตโนมัติหากไม่ได้รับสินค้าภายในเวลาที่กำหนด
บริการการันตีการจัดส่งสินค้า LazMall (LazMall Guaranteed Delivery) เปิดให้บริการแล้วในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ นับเป็นบริการที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกค้า LazMall มั่นใจยิ่งขึ้นว่าจะได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว และหมดกังวลเรื่องการจัดส่ง พร้อมมอบค่าชดเชย หากการจัดส่งสินค้าไม่ตรงตามวันที่กำหนด โดยบริการนี้ถูกสร้างขึ้นมาจากความพร้อมทางด้านเครือข่ายโลจิสติกส์ของอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันรองรับผู้ใช้บริการบนแพลตฟอร์มลาซาด้ามากกว่า 50 ล้านคนต่อปี
บริการการันตีการจัดส่งสินค้า LazMall ที่เปิดให้ใช้พร้อมกันทั่วทั้งภูมิภาคนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าด้านโครงสร้างซัปพลายเชน และความสามารถด้านโลจิสติกส์ระดับสูงของลาซาด้า ที่สามารถนำโซลูชันระบบสินค้าคงคลังอัจฉริยะ ซึ่งขับเคลื่อนด้วยระบบแมชชีนเลิร์นนิ่งมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จากการที่ลาซาด้าเป็นเจ้าของเครือข่ายระบบคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าในหลากหลายเมืองใหญ่ทั่วภูมิภาคนี้ ทำให้สามารถบริหารจัดการโลจิสติกส์ได้ครบถ้วนทั้งกระบวนการ และเป็นผู้นำในการจัดส่งสินค้า โดยกว่า 70% ของการส่งมอบสินค้าปลายทางถึงมือลูกค้าทั้งหมดใน 6 ประเทศนั้นดำเนินการด้วยลาซาด้าเองทั้งหมด
นายแจ็ค จาง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “บริการการันตีการจัดส่งนี้ช่วยเน้นย้ำให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของระบบอีคอมเมิร์ซที่ลาซาด้ามีในภูมิภาคนี้ และด้วยโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์อันล้ำหน้า ที่เราพัฒนาขึ้นในประเทศไทยและทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถมอบประสบการณ์ชอประดับพรีเมียมให้แก่นักชอปไทยทุกคน ลาซาด้าถือเป็นอีคอมเมิร์ซรายแรกและรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มอบความแน่นอนในการจัดส่งแก่ลูกค้า พร้อมมอบค่าชดเชยหากจัดส่งสินค้าล่าช้า เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ความต้องการของผู้บริโภคให้อุ่นใจและหมดห่วงว่าสินค้าที่สั่งนั้นจะมาถึงตรงเวลาหรือไม่”
อีคอมเมิร์ซรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มอบค่าชดเชยหากจัดส่งสินค้าล่าช้า บริการนี้เข้ามาช่วยสนับสนุนสองการันตีเดิมของ LazMall นั่นคือ 'สินค้าของแท้ 100%' และ “คืนสินค้าง่ายๆ ภายใน 15 วัน’ ซึ่งบริการเหล่านี้ช่วยสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคถึงสินค้าที่มีคุณภาพและนโยบายการคืนสินค้าที่ง่ายดาย ขณะเดียวกันยังเพิ่มเรื่องบริการจัดส่งที่การันตีว่าสินค้าจะมาถึงตรงเวลาด้วย
LazMall คือห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงชั้นนำของภูมิภาคนี้ ซึ่งมีแบรนด์และผู้จัดจำหน่ายมากกว่า 7,000 ราย โดยมีผลิตภัณฑ์มากมายกว่าหลายแสนรายการให้ลูกค้าทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เลือกสรร
ระบบการให้บริการ ‘การการันตีการจัดส่งสินค้า LazMall’ ทำงานอย่างไร
ลูกค้าสามารถทราบว่าผู้ขายรายใดมีบริการการันตีการจัดส่งสินค้า LazMall ได้จากสองสัญลักษณ์ต่อไปนี้ / โดย เครื่องหมายถูก หมายถึงการันตีการจัดส่งแบบมาตรฐาน ที่จะเริ่มดำเนินการจัดส่งในวันถัดไป ขณะที่เครื่องหมาย 24 ชั่วโมง หมายถึงการจัดส่งให้ถึงมือผู้รับภายในวันถัดไป
บริการการันตีการจัดส่งสินค้า LazMall นั้นครอบคลุมผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสินค้ายอดนิยมในหมวดอิเล็กทรอนิกส์ แม่และเด็ก เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย สำหรับประเทศไทย แบรนด์ที่เปิดให้บริการนี้แล้วในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เช่น Samsung, S-26, Enfagrow, MamyPoko และ BabyLove
เมื่อสั่งซื้อจากผู้ขายใน LazMall ที่มีบริการการันตีการจัดส่งสินค้า ลูกค้าจะเห็นวันที่จัดส่งสินค้าระบุไว้บนหน้ายืนยันการสั่งซื้อ หากไม่มีการจัดส่งตามวันที่ระบุไว้นั้น ลาซาด้าจะดำเนินการชดเชยลูกค้าโดยอัตโนมัติ โดยค่าชดเชยซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศจะถูกคืนไปยังลาซาด้าวอลเลต หรือลูกค้าจะได้รับเป็นคูปองส่วนลดแทน ทั้งนี้ ลูกค้าไม่จำเป็นต้องทำเรื่องยื่นเรียกร้องค่าชดเชยใดๆ ส่วนประเทศสิงคโปร์จะเปิดให้บริการการันตีการจัดส่งสินค้า LazMall เร็วๆ นี้
เกี่ยวกับลาซาด้า (Lazada)
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ลาซาด้า กรุ๊ป เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ด้วยการนำเสนอธุรกิจการค้าและเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง และเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ลาซาด้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั่วภูมิภาค พร้อมความมุ่งมั่นที่จะให้บริการเหล่านักชอปออนไลน์กว่า 300 ล้านคนภายในปี 2030 ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ลาซาด้าได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของกลุ่มอาลีบาบาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
