กรมทรัพย์สินทางปัญญาดัน “เสื่อกกนาหมอม้า” ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ หลังพบมีความโดดเด่น มีอัตลักษณ์ท้องถิ่น เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้ชุมชน พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ตรา GI สินค้า “ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี” แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการ เผยล่าสุดขึ้นทะเบียน GI แล้ว 134 รายการ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า วันที่ 15-16 ต.ค. 2563 กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแหล่งผลิตสินค้า “เสื่อกกนาหมอม้า” ณ กลุ่มทอเสื่อกกบ้านนาหมอม้า อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ และได้ประชุมร่วมกับส่วนราชการ ผู้ผลิต และผู้ประกอบการท้องถิ่น เพื่อเตรียมจัดทำคำขอขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ในอนาคต เพื่อยกระดับสินค้าในชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง ช่วยสร้างมูลค่าให้แก่สินค้า และเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ผลิตในชุมชน
สำหรับเสื่อกกนาหมอม้ามีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ โดยผลิตจากต้นกกในพื้นที่ ต.หมอม้า นำต้นกกมากรีดให้ได้เส้นเล็ก มีความมันวาว แล้วสานเป็นผลิตภัณฑ์จักสานต่างๆ เช่น เสื่อกกลายมัดหมี่ กล่องใส่ไม้จิ้มฟัน กล่องกระดาษทิชชู จานรองแก้ว กระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย เป็นต้น
ทั้งนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญายังได้มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ GI แก่ผู้ผลิตและผู้ประกอบการข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี โดยครอบคลุมทั้งข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวขาวที่แปรรูปมาจากข้าวหอมมะลิพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 และ กข 15 ปลูกในฤดูนาปีเขตพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ลักษณะเด่นคือ เมล็ดข้าวเรียวยาว ข้าวมีสีขาวใสเป็นเงามันวาว เมื่อหุงสุกจะมีกลิ่นหอมและมีความเหนียวนุ่ม และมียางข้าวเหนียวปนเล็กน้อย เนื่องจากมีพันธุ์ข้าวเหนียวเจือปนอยู่ในพื้นที่แปลงนา พร้อมกับตรวจเยี่ยมกระบวนการผลิตสินค้า ณ วิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวกล้องปลอดสารบ้านสร้างมิ่ง อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานีด้วย
ปัจจุบันได้มีการขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยแล้วทั้งสิ้น 134 รายการ ซึ่งสินค้า GI เหล่านี้ล้วนเป็นสินค้าชุมชนที่มีคุณภาพและมีลักษณะพิเศษอันเป็นผลมาจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ผสมผสานเข้ากับภูมิปัญญาท้องถิ่น จนทำให้สินค้ามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
นอกจากนี้ ยังมีแผนบูรณาการการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน จัดทำระบบควบคุม ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้ได้ตามมาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมช่องทางการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน
