กรมพัฒนาธุรกิจการค้าปั้นชุมชนต้นแบบ “ดิจิทัล วิลเลจ ออนไลน์” ช่วยชุมชนค้าขายออนไลน์ได้แล้ว 20 หมู่บ้าน พร้อมผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ดึงคนเข้าไปเที่ยวชมและซื้อสินค้า ส่วนสินค้า OTOP จับมือคิงเพาเวอร์เพิ่มช่องทางขายผ่าน Omni-Channel ขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ซื้อแล้วรอรับสินค้าที่บ้านได้เลย ไม่ต้องหิ้วกลับ
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดคัดเลือกชุมชนในทุกภูมิภาคเพื่อพัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบ “ดิจิทัล วิลเลจ ออนไลน์” เหมือนกับที่จีนได้ใช้ “เถาเป่าโมเดล” ในการแก้ไขปัญหาความยากจนในชุมชนที่ห่างไกล โดยใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และระบบโลจิสติกส์ในการกระจายผลผลิตทางการเกษตร สินค้าชุมชน และสินค้าท้องถิ่นให้เข้าถึงผู้บริโภคในทุกพื้นที่ โดยในส่วนของไทยได้ผลักดันให้สินค้าชุมชนเข้าไปขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ www.shopee.co.th/dbdonline ซึ่งปัจจุบันมีหมู่บ้านที่ค้าขายออนไลน์ได้แล้วจำนวน 20 หมู่บ้าน
สำหรับ 20 หมู่บ้าน ได้แก่ 1. ชุมชนนาข่า จังหวัดอุดรธานี ผ้าไหม ผ้าพื้นเมือง 2. ชุมชนใบชาดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย สินค้าใบชา 3. ชุมชนด่านเกวียน จังหวัดนครราชสีมา เครื่องปั้นดินเผา 4. ชุมชนบ้านวังส้มซ่า จังหวัดพิษณุโลก ผลิตภัณฑ์จากส้มซ่า 5. ชุมชนควนขนุน จังหวัดพัทลุง หัตถกรรมกระจูด 6. ชุมชนสรรพยา จังหวัดชัยนาท ส้มโอขาวแตงกวา 7. ชุมชนเกาะคา จังหวัดลำปาง ข้าวแต๋น เซรามิก 8. ชุมชนเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา จักสานผักตบชวา 9. ชุมชนปัว จังหวัดน่าน เครื่องเงินชาวเขา 10. ชุมชนส่องดาว จังหวัดสกลนคร ผ้าย้อมคราม
11. ชุมชนปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ผ้าไหมหมี่โคราช 12. ชุมชนบางสระเก้า จังหวัดจันทบุรี กกจันทบูร 13. ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว จังหวัดตราด ท่องเที่ยว 14. ชุมชนละงู จังหวัดสตูล อาหารทะเลแปรรูป 15. ชุมชนเมืองตรัง จังหวัดตรัง จักสานใบจาก 16. ชุมชนบ้านสามช่องเหนือ จังหวัดพังงา ท่องเที่ยว 17. ชุมชนดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี มะพร้าว 18. ชุมชนบ้านดอนทอง จังหวัดนครปฐม กล้วยแปรรูป 19. ชุมชนมิตรสัมพันธ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ผลไม้แช่อิ่ม และ 20. ชุมชนคลองตาปรั่ง จังหวัดสมุทรสาคร มะพร้าว
ทั้งนี้ กรมฯ เข้าไปสอนทั้งหมู่บ้าน สอนตั้งแต่การโพสต์ขายสินค้า สอนวิธีเล่าเรื่องที่มาที่ไปของสินค้า สอนกระทั่งขายได้แล้วจะจัดส่งอย่างไร ทำให้ทั้งหมู่บ้านสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้ และช่วยเพิ่มรายได้ให้ชุมชน โดยกรมฯ ยังมีแผนผลักดันให้ชุมชนที่เป็นแหล่งผลิตเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้ให้ชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
ส่วนสินค้า OTOP ได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายในรูปแบบ Omni-Channel คือ การขายแบบ 2 ช่องทาง ทั้งขายหน้าร้านและออนไลน์ โดยการขายหน้าร้านได้มีการคัดสินค้า OTOP Select ไปวางจำหน่ายที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต สร้างรายได้ปีละกว่า 100 ล้านบาท มียอดขายรวมตั้งแต่เปิดตัวรวม 580 ล้านบาท และจะเพิ่มช่องทางออนไลน์นำสินค้าขึ้นไปแสดงบนเว็บไซต์ของคิงเพาเวอร์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเลือกซื้อสินค้า จ่ายเงิน และไม่ต้องหิ้วสินค้าออกไป แต่สินค้าจะถูกจัดส่งไปยังที่บ้านให้เลย ซึ่งจะเริ่มที่ตลาดจีน เดิมจะเปิดตัวแล้ว แต่มาติดโควิด-19 ก็เลยเลื่อนออกไป