ผู้จัดการรายวัน 360 - กลุ่ม รีเจ้นท์ กรุ๊ป ขยายฐานลูกค้า ลงทุน 1,200 ล้านบาท พัฒนา วาลา หัวหิน - นู แชปเตอร์ โฮเทล (VALA Hua Hin - Nu Chapter Hotels) บูทีค บีชรีสอร์ต ระดับ 5 ดาว โดยได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิก Small Luxury Hotels of the World (SLH) ตอกย้ำความมีเอกลักษณ์ โดดเด่น หรูหราทันสมัย เหมาะที่จะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่แสวงหาประสบการณ์ที่แตกต่างอย่างมีสไตล์ เปิดให้บริการ Soft Opening ตั้งแต่วันนี้
น.ส.วศุมา คณาธนะวนิชย์ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท รีเจ้นท์ กรุ๊ป เปิดเผยว่า รีเจนท์ กรุ๊ป ได้ลงทุนมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท เพื่อขยายฐานตลาดกลุ่มลูกค้า โดยได้ก่อสร้างและเปิดตัว วาลา หัวหิน - นู แชปเตอร์ โฮเทล (VALA Hua Hin - Nu Chapter Hotels) บูทีค บีชรีสอร์ต ระดับ 5 ดาว บนพื้นที่กว่า 20 ไร่ ติดชายหาดทะเลหัวหิน-ชะอำ วาลา หัวหิน โดยเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการ หรือ Soft Opening ตั้งแต่วันนี้
ภายใต้การบริหารงานของ นู แชปเตอร์ โฮเทล (Nu Chapter Hotels) ซึ่งเป็นกลุ่มแมเนจเมนต์นิวเจนรุ่นใหม่ โดย วาลา หัวหิน - นู แชปเตอร์ โฮเทล ได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยแนวคิด “Nature's Touch with a Modern Design” ที่ผสมผสานงานสถาปัตยกรรมทันสมัยกับบรรยากาศธรรมชาติแวดล้อมได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยมาตรฐานการบริการที่เหนือความคาดหมายของลูกค้า โดยได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิก Small Luxury Hotels of the World (SLH) ด้วย
“VALA หมายถึงพลังของธรรมชาติ ถือเป็นทางเลือกใหม่ของหัวหิน-ชะอำ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่ต้องการโรงแรมในรูปแบบบูทีค รีสอร์ต โดยเน้นความเรียบง่ายแต่หรูหราทันสมัย ชูจุดเด่นด้วยพื้นที่กว้างขวาง มีความเป็นส่วนตัว ติดชายหาดทอดยาวถึง 260 เมตร ชมวิวทะเลอย่างเต็มตาในมุมกว้างสุดสายตา ซึ่งแทบจะหาทำเลที่สวยงามแบบนี้ไม่ได้แล้วในพื้นที่หัวหิน-ชะอำ”
น.ส.วศุมากล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นที่ดินดั้งเดิมของครอบครัว ทำให้มีต้นไม้สูงใหญ่จำนวนมาก ซึ่งการออกแบบพื้นที่โครงการ (landscape design) ยังคงรักษาต้นไม้เดิมเอาไว้ทั้งหมด หรือบางต้นย้ายไปปลูกในจุดใหม่แทน ฉะนั้น การออกแบบเชิงสถาปัตยกรรมจึงไม่ได้ให้ความสำคัญเพียงแค่อาคารสถานที่อย่างเดียว หากแต่ยังให้ความสำคัญกับการเลือกพันธุ์ไม้ในแต่ละโซนเพื่อสร้างความโดดเด่นและแตกต่าง และมีสระว่ายน้ำหินอ่อน ขนาดโอลิมปิกความยาวมากกว่า 55 เมตร และยังมีบาร์ในสระน้ำ ที่เปิดให้บริการ
โดยให้บริการห้องพักทั้งหมดเพียง 97 ห้อง แบ่งเป็นโซนห้องพักบนอาคาร 3 ชั้น จำนวน 84 ห้อง ซึ่งมีระเบียงกว้างและเห็นวิวทะเลทุกห้อง โดยเฉพาะห้อง Deluxe Beachfront ที่ตั้งอยู่ชั้น 3 มีกระจกใสตั้งแต่เพดานจดพื้นสามารถชมวิวทะเลได้อย่างเต็มตา และ VALA VILLAS โซนพูลวิลล่าส่วนตัว จำนวน 13 หลัง ได้รับการออกแบบในสไตล์ Glamping โดยเฉพาะ Beachfront Pool Villa ซึ่งมี 5 หลัง ตั้งอยู่ด้านหน้าสุดของชายหาด ที่สามารถชมวิวทะเลได้จากภายในห้องพัก โดยด้านนอกยังมีสระว่ายน้ำระบบเกลือส่วนตัว ขนาด 2.8 X 1.8 เมตร พื้นที่สวน และระเบียงกว้างที่สามารถจัดกิจกรรมเอาต์ดอร์ พร้อมบริการบัตเลอร์ เซอร์วิส
“วาลา หัวหิน ได้ร่วมกับ Vesper ซึ่งเป็นบาร์ที่มีชื่อเสียงและติดอันดับที่ 11 ใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย นำวัตถุดิบในท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นค็อกเทล เช่น ใช้น้ำตาลโตนดแทนไซรัป (syrup) โดยมี 8 เมนูค็อกเทลซิกเนเจอร์ และอีก 12 เมนูทวิสต์ค็อกเทล
น.ส.วศุมากล่าวว่า ในฐานะผู้บริหารของกลุ่มแมเนจเมนต์ นู แชปเตอร์ โฮเทล มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความยั่งยืน (Sustainability) ด้วยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง (food waste) การทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ รวมไปถึงการใช้วัตถุดิบในประเทศและผักผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งเป็นแนวคิดหลักที่มุ่งหวังให้แขกที่มาพักได้สัมผัสประสบการณ์ พร้อมทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาความยั่งยืน ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่โรงแรมสร้างสรรค์ขึ้น
นอกจากนี้ วาลา หัวหิน ยังให้ความสำคัญกับอาหารเป็นอย่างยิ่ง โดยจะมีอาหารหลากหลายให้เลือกรับประทานที่ WOODS Kitchen & Bar โดยอาหารกลางวันจะให้บริการทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ส่วนมื้อค่ำจะเนรมิตบรรยากาศเสิร์ฟทาปาส เมนูซีฟูด และกริลที่หอมชวนรับประทาน ซึ่งได้คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นผสมผสานกับเครื่องปรุงชั้นดี เพื่อรังสรรค์เมนูทั้งหมดได้อย่างลงตัว
สำหรับการจัดปาร์ตี้สังสรรค์จะเน้นพื้นที่กลางแจ้ง เช่น The Courtyard ที่มีทัศนียภาพโดดเด่นร่มรื่นรับวิวทะเล โอบล้อมด้วยไม้พุ่ม และกำแพงคดเคี้ยวแปลกตา WOODS Upper Deck ให้ลูกค้าชิลบนดาดฟ้าชมวิวอ่าวไทย อันงดงามสุดสายตา หรือบริเวณริมชายหาด ซึ่งแต่ละจุดรองรับได้ประมาณ 50-100 คน
เติมเต็มความสุขด้วยกิจกรรมที่มีให้เลือกหลากหลาย เช่น การปั่นจักรยานในสวน การนั่งสมาธิตอนเช้า โยคะ ริมชายหาด นวดแผนไทย สอนชกมวย เวิร์คชอปทำอาหารและค็อกเทล กิจกรรมศิลปะสำหรับเด็ก หรือเรียนรู้ฟาร์มออร์แกนิก อีกทั้งยังได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และอาหารเด่นของท้องถิ่นให้นักท่องเที่ยวออกไปสัมผัสเสน่ห์ของหัวหิน-ชะอำ ได้อีกด้วย