“พาณิชย์” ไฟเขียวงบ 600 ล้านดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ 3 แสนตัน เริ่ม ต.ค.นี้ สิ้นสุด มี.ค. 64 เร่งระบายสต๊อกที่มีอยู่สูงกว่า 6 แสนตัน พร้อมเคาะอนุมัติเอกชนติดมิเตอร์ที่แท็งก์น้ำมันปาล์ม คาดติดตั้งเสร็จใน 4 เดือน มั่นใจช่วยติดตามสต๊อกน้ำมันปาล์มได้แบบเรียลไทม์
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คบท.) ได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 600 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการคัดแยก บรรจุ และขนส่ง เป็นต้น อัตรากิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท ในการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบออกสู่ตลาดต่างประเทศปริมาณ 3 แสนตัน เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 และให้เสร็จสิ้นภายในเดือน มี.ค. 2564 เพื่อเร่งระบายสต๊อกส่วนเกินที่มีอยู่ประมาณ 6 แสนตัน
ทั้งนี้ สต๊อกน้ำมันปาล์มได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบลดลง โดยการนำไปผลิตเป็น บี 10 บี 20 ลดลงกว่า 30% แล้วยังลดลงในส่วนของการบริโภค จากการปิดโรงแรม ปิดร้านอาหาร จากการไม่มีนักท่องเที่ยว ก็เลยทำให้สต๊อกเพิ่มขึ้น ทั้งที่ปกติ ไม่ควรจะเกิน 3 แสนตัน ทำให้กดดันต่อราคาผลปาล์มดิบ เคยลงไปต่ำสุดถึง กก.ละ 2 บาทช่วงเดือนมิ.ย. 2563 แต่หลังจากเข้าไปดูแลราคาก็ขยับขึ้นมา จนขณะนี้ใกล้จะ กก.ละ 4 บาทแล้ว
สำหรับการผลักดันให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเพื่อนำไปใช้ผลิตกระแสไฟฟ้านั้น ปริมาณส่วนที่ค้างอยู่ 3.7 หมื่นตัน ได้มีการส่งมอบครบหมดแล้ว ยังคงมีปริมาณสำรองที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้อีก 1 แสนตันที่ กฟผ.สามารถซื้อได้ แต่ยังไม่ได้มีการซื้อ ทราบว่าติดปัญหาในเรื่องการคำนวณต้นทุนค่าไฟฟ้า
ส่วนโครงการติดตั้งเครื่องมือวัดปริมาณน้ำมันปาล์มเพื่อบริหารจัดการและควบคุมสต๊อกน้ำมันปาล์ม ล่าสุดได้ผู้ชนะการประมูลเพื่อติดตั้งแล้ว เสนอราคาเข้ามาที่ 316 ล้านบาท เพื่อติดตั้งมิเตอร์รวม 450 แท็งก์ จากงบประมาณที่ได้รับอนุมัติรวม 372 ล้านบาท หากไม่มีอะไรติดขัดจะสามารถลงนามและเริ่มติดตั้งได้ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 เป็นต้นไป ใช้เวลาประมาณ 4 เดือนจะติดตั้งแล้วเสร็จ ซึ่งจะทำให้สามารถตรวจสอบปริมาณสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบได้แบบเรียลไทม์ น้ำมันเข้าหรือออกก็สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด การติดตามดูแลปริมาณสต๊อกจะทำได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีการดูแลราคาผลปาล์มดิบให้แก่ชาวสวนปาล์ม โดยคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้มีมติให้ต่ออายุโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มปี 2562-63 ออกไปอีก 3 เดือน (งวดที่ 10-12 ) โดยจะจ่ายชดเชยส่วนต่างในวันที่ 16 ก.ย., 16 ต.ค. และ 16 พ.ย. 2563 เพื่อช่วยเหลือชาวสวนปาล์ม เพราะยังมีวงเงินจากโครงการเดิมเหลืออยู่กว่า 6,000 ล้านบาท หากจะรอโครงการใหม่อาจต้องใช้เวลา ซึ่งได้จ่ายชดเชยงวดที่ 10 ไปแล้ว ในอัตรา กก.ละ 0.46 บาท เหลือที่จะต้องจ่ายอีก 2 งวด หากราคาผลปาล์มดิบต่ำกว่าราคาประกันรายได้ที่ กก.ละ 4 บาท
