“พาณิชย์” เผย กนป.ไฟเขียวจ่ายชดเชยส่วนต่างโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันอีก 3 งวด ก.ย.-พ.ย. 63 หวังดูแลรายได้ให้ชาวสวนปาล์มไม่สะดุด เหตุผลผลิตยังออกสู่ตลาดต่อเนื่อง และยังมีเงินโครงการเดิมเหลือกว่า 6,000 ล้านบาท จ่ายทุกวันที่ 16 เหมือนเดิม ส่วนโครงการปี 63/64 อนุมัติในหลักการแล้ว
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันได้รับการต่ออายุโครงการออกไปอีก 3 เดือน คือ เดือน ก.ย.-พ.ย. 2563 จากเดิมโครงการได้สิ้นสุดลงในเดือน ส.ค. 2563 ทำให้ชาวสวนปาล์มจะยังคงได้รับการชดเชยรายได้เพิ่มอีก 3 เดือน โดยจะจ่ายชดเชยในวันที่ 16 ก.ย., 16 ต.ค. และ 16 พ.ย. 2563 ทำให้ชาวสวนปาล์มยังคงมีหลักประกันไว้รองรับ หากราคาผลปาล์มตกต่ำกว่าราคาที่ประกันไว้ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 4 บาท ก็จะได้รับการชดเชยทันที
“การต่ออายุโครงการประกันรายได้ เนื่องจากขณะนี้ผลผลิตปาล์มน้ำมันยังคงออกสู่ตลาด หากไม่มีมาตรการรองรับก็อาจจะส่งผลกระทบต่อรายได้ของชาวสวนปาล์มได้ กนป. (คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ) จึงมีมติให้ต่ออายุโครงการออกไปอีก 3 เดือนเพื่อช่วยเหลือชาวสวนปาล์ม โดยทำได้ทันที เพราะยังมีวงเงินจากโครงการเดิมเหลืออยู่กว่า 6,000 ล้านบาท หากจะรอโครงการใหม่อาจต้องใช้เวลา และกระทบต่อรายได้ของชาวสวนปาล์ม หากราคาต่ำกว่าราคาประกันรายได้”
ทั้งนี้ การจ่ายเงินชดเชย คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2562-63 จะเป็นผู้คำนวณอัตราการจ่ายเงินชดเชย โดยปริมาณผลปาล์มที่ใช้คำนวณเงินชดเชยส่วนต่างสำหรับงวดที่ 10-12 อาจจะใช้อัตราส่วนเดิม คือเฉลี่ย 242.17 กิโลกรัมต่อไร่ต่องวด คูณด้วยจำนวนไร่ที่ปลูกจริง แต่ไม่เกินครัวเรือนละ 25 ไร่
นายวิชัยกล่าวว่า กนป.ยังได้อนุมัติในหลักการให้มีการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2563/64 เพื่อช่วยเหลือชาวสวนปาล์มต่อไป โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปดูรายละเอียดโครงการ ทั้งเกษตรกรที่จะเข้าร่วม เพราะมีสวนปาล์มน้ำมันที่มีอายุเกิน 3 ปีเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพิ่ม การพิจารณาราคาประกันรายได้ ซึ่งเบื้องต้นเห็นว่า 4 บาทต่อ กก.ยังคงเหมาะสม และการพิจารณาวงเงินงบประมาณ จากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
สำหรับการระบายสต๊อกส่วนเกินที่มีอยู่ จะเร่งผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบเป้าหมาย 3 แสนตัน ภายในเดือน มี.ค. 2564 เพื่อลดปริมาณสต๊อก โดยจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ เช่น ค่าขนส่ง ค่าจัดเก็บและรักษาคุณภาพ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ในอัตราไม่เกิน 2.00 บาทต่อ กก. ให้แก่ผู้ที่ส่งออก โดยจะใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 600 ล้านบาท
ปัจจุบันโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์ม ปี 2562/63 ได้จ่ายชดเชยรายได้แล้ว 9 งวด งวดแรก วันที่ 1 ต.ค. 2562 และงวดที่ 9 วันที่ 14 ส.ค. 2563 โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้จ่ายเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรจำนวน 375,202 ครัวเรือน วงเงิน 6,729.57 ล้านบาท หรือ 51.77% ของวงเงินงบประมาณ 13,000 ล้านบาท ส่วนคาดการณ์ผลผลิต ช่วงครึ่งปีหลัง 2563 เดือน ส.ค.ปริมาณผลปาล์มดิบจะออกสู่ตลาด 1.367 ล้านตัน เดือน ก.ย. 1.348 ล้านตัน ขณะที่ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ กก.ละ 3.20-4.00 บาท และราคาน้ำมันปาล์มดิบ 20.00-20.50 บาทต่อ กก.