ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือนการเข้ามาของพายุดีเปรสชันที่พัฒนาเป็นพายุโซนร้อนโนอึล ช่วงวันที่ 18-20 กันยายน 2563 กรมชลประทานได้สั่งการให้โครงการชลประทานทุกแห่งเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ หากมีฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง อาจกระทบต่ออาคารชลประทาน ให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปดำเนินการแก้ไขโดยเร็ว และติดตาม ตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยเขื่อน ประตูระบายน้ำ และอาคารชลประทานอื่นให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมถึงการกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ตลอดจนบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม
ทั้งนี้ พายุโนอึลจะเข้ามาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นจุดแรก จากนั้นเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางกว่า 400 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมกว่า 36,000 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 49% ของความจุเก็บกัก และมีปริมาณน้ำใช้การจริงกว่า 12,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งถือว่ายังน้อยต่อความต้องการโดยรวม หากมีพายุพาดผ่านเข้ามาก็จะเป็นผลดีต่อการกักเก็บน้ำเพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำในเกณฑ์น้อยได้กำชับให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบสถานการณ์น้ำ ขอให้ใช้น้ำฝนเป็นหลักในการเพาะปลูก หากพื้นที่ใดยังไม่เพาะปลูกให้พิจารณาปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนเพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำ
ส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือภาวะน้ำท่วมจากพายุดังกล่าว กรมชลประทานได้เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เช่น รถแบ็กโฮ รถขุด รถเทรลเลอร์ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เข้าประจำการในพื้นที่เสี่ยง เพื่อช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที