xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ลงพื้นที่ รับคำขอ “ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ” ขึ้นทะเบียน GI รายการใหม่

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมทรัพย์สินทางปัญญาลงพื้นที่ รับคำขอ “ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ” ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ เผยเป็นสินค้าที่มีศักยภาพ ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยนำดินโคลนจากธรรมชาติมาย้อมผ้า เพื่อเพิ่มมูลค่า มั่นใจหลังขึ้นทะเบียน GI แล้วจะยิ่งช่วยเพิ่มรายได้ให้ชุมชน ระบุยังได้ดูการเลี้ยง “ปลานิลกระชังแม่น้ำโขง” จ.หนองคาย เล็งผลักดันขึ้นทะเบียน GI ใหม่ต่อไป

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมฯ ได้นำทีมลงพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เพื่อรับคำขอ “ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ” ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ ณ ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ โดยมีคณะผู้แทนจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตและผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าร่วมให้ข้อมูล ความโดดเด่นของสินค้า ที่มาที่ไป และกระบวนการผลิตที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยกรมฯ จะตรวจสอบรายละเอียดคำขอและพิจารณารับขึ้นทะเบียน GI ต่อไป

“ผ้าหมักโคลนบึงกาฬ เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ชุมชนที่นำดินโคลนจากธรรมชาติมาสร้างมูลค่า โดยการนำโคลนจากริมแม่น้ำโขงมาหมักกับผ้าฝ้ายด้วยกรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิม ทำให้ผ้ามีสีเทาเข้ม มีผิวสัมผัสนุ่ม มันวาว และมีกลิ่นหอมละมุนของไอดิน เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่นของชาวบึงกาฬ หากได้รับการขึ้นทะเบียน GI จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน และสินค้ายังได้รับการคุ้มครอง ใครจะมาผลิตและใช้ชื่อเลียนแบบไม่ได้” นายทศพลกล่าว

ทั้งนี้ กรมฯ ยังได้นำคณะลงตรวจเยี่ยมแหล่งผลิตผ้าหมักโคลนบึงกาฬในพื้นที่บ้านสะง้อ ตำบลหอคำ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิตผ้าหมักโคลนบึงกาฬด้วย ซึ่งพบว่า กระบวนการผลิต มีความแตกต่าง มีความเป็นเอกลักษณ์ และเป็นสินค้าที่มีความโดดเด่นจริง โดยได้เน้นย้ำให้ชุมชนร่วมรักษาคุณภาพสินค้าคงไว้ซึ่งความมีอัตลักษณ์ และคุมคุณภาพมาตรฐานให้คงที่

นอกจากนี้ ได้ลงพื้นที่ครั้งนี้ตามหาสินค้าที่มีโอกาสขึ้นทะเบียน GI รายการใหม่ โดยพบว่าปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง จังหวัดหนองคาย เป็นสินค้าที่มีศักยภาพที่จะส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI ได้ ซึ่งปลานิลกระชังในแม่น้ำโขง เลี้ยงในน้ำไหลทำให้ปลามีเนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นโคลน ไขมันน้อย รสชาติดี โดยหน่วยงานในพื้นที่จะศึกษารายละเอียดความเป็นไปได้ในการขึ้นทะเบียน GI เพื่อสร้างรายได้สู่ชุมชนและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานรากต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น