xs
xsm
sm
md
lg

RATCH จ่อเซ็นร่วมมือ EGCO-EGATi ลุย “กวางจิ”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ราช กรุ๊ป” เตรียมลงนามความร่วมมือกับเอ็กโก กรุ๊ป และ EGATi เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ากวางจิที่เวียดนามในเดือน ก.ย.นี้ ลุ้นทางเวียดนามไฟเขียว PPA และสรุปค่าไฟ มั่นใจเริ่มก่อสร้างปี 64 บอร์ดฯ อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาล 1.15 บาท/หุ้น

แหล่งข่าว บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิที่เวียดนาม ขนาดกำลังผลิต 1,320 เมกะวัตต์ ว่า โครงการดังกล่าวทางบริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EGATi) ร่วมกับบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO และราช กรุ๊ป ในฐานะบริษัทลูกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) อยู่ระหว่างเจรจาในรายละเอียดความร่วมมือกันพัฒนาโรงไฟฟ้ากวางจิ โดยคาดว่าจะสามารถลงนามความร่วมมือกันได้ในเดือน ก.ย. 63

โครงการโรงไฟฟ้ากวางจินั้นทางรัฐบาลเวียดนามอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดค่าไฟฟ้าและรายละเอียดสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปอัตราค่าไฟฟ้าปลายปีนี้ และได้ข้อสรุป PPA ต้นปี 64 ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุปแล้วก็จะดำเนินการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ โดยในเบื้องต้น EGATi จะถือหุ้นในสัดส่วน 40% EGCO 30% RATCH 30% หลังจากนั้นก็จะเริ่มดำเนินการพัฒนาก่อสร้างทันที และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในปลายปี 2566-2567 ซึ่งจะขายไฟฟ้าให้แก่ Vietnam Electricity (EVN) ภายใต้สัญญาการซื้อขายไฟฟ้าระยะเวลา 25 ปี โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาโรงไฟฟ้ากวางจินั้น ทาง EGATi ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือ Memorandum of Understanding (MOU) ร่วมกับคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกวางจิ เพื่อสร้างความร่วมมือในการพัฒนาโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 57

นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2563 ในอัตราหุ้นละ 1.15 บาท ซึ่งเป็นอัตราเดียวกับเงินปันผลที่จ่ายในงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นเงินรวม 1,667.50 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 68.5 ของกำไรรวม บริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2563 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 กันยายน ศกนี้  

“บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างมูลค่าองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนที่สมเหตุสมผลและเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่ได้ประกาศไว้ คือไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไร และนับตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการในปี 2543 บริษัทฯ ได้สร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอตลอดมา ที่สำคัญ บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะเพิ่มคุณค่าทางสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วย เพราะเชื่อมั่นว่าเป็นแนวทางที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนขององค์กร” นายกิจจา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น