กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กลุ่มเครือข่ายปกป้องสิทธิชุมชนคนกระบี่ ยื่นหนังสือตรงถึงหัวหน้าโครงการศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้ ขอทำประมติชี้ขาดโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือคลองรั้ว จ.กระบี่
รายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 11 สิงหาคม 2563 ในเวทีสานเสวนารอบ 2/1 ยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานไฟฟ้าภาคใต้ ซึ่งจัดโดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ที่ รร.เดอะะพายแอปเพิล อ.เมืองฯ จ.กระบี่ นายกิจจา ทองทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ตัวแทน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ.เหนือคลอง ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา กลุ่มเครือข่ายปกป้องสิทธิชุมชนคนกระบี่ ยื่นหนังสือและแถลงการณ์ขอทำประชามติดำเนินการโรงไฟฟ้าถ่านหินและท่าเทียบเรือคลองรั้ว จ.กระบี่ ต่อศาสตราจารย์ ดร.จำลอง โพธิ์บุญ หัวหน้าโครงการศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์สำหรับพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในภาคใต้
ทั้งนี้ หนังสือได้ระบุใจความหลักว่าหลังจากที่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงานขณะนั้นได้ลงนามกับกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เมื่อ 20 ก.พ. 2561 โดยมีเงื่อนไขให้กระทรวงพลังงานจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อศึกษาว่าอำเภอกระบี่ และเทพา จ.สงขลา มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ โดยแท้จริงแล้วการศึกษาในส่วนนี้ยังไม่ได้กำหนดไว้เป็นกฎหมายในประเทศไทยแต่อย่างใด เป็นการทำลายวิถีปฏิบัติตามหลักกฎหมายของประเทศอย่างสิ้นเชิง
“สิ่งนี้เป็นบรรทัดฐานใหม่ของคนในสังคม ที่ไม่พอใจสิ่งใดก็แค่ใช้วิธีรวมตัวต่อต้านไปกดดันรัฐบาล และคนเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนกระบี่ แต่เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช และรัฐบาลก็ทำตามทำให้กลายเป็นพฤติกรรมเลียนแบบที่ผิดกฎหมาย ทำลายโอกาสของคนในชุมชนที่จะมีโอกาสได้รับการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สร้างงานสร้างอาชีพ ดังนั้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเหนือคลอง ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา กลุ่มเครือข่ายปกป้องสิทธิชุมชนคนกระบี่ จึงมีความเห็นตรงกันสมควรจัดให้มีการแสดงประชามิของคนในพื้นที่อำเภอเหนือคลองเพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงของคนในพื้นที่อย่างแท้จริงว่ามีคามต้องการอย่างไร” นายกิจจา ทองทิพย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ตำบลปกาสัย อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ตัวแทน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ.เหนือคลอง ผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา กลุ่มเครือข่ายปกป้องสิทธิชุมชนคนกระบี่ กล่าว