ภูมิใจไทยเคาะ “ชยธรรม์” นั่งปลัดคมนาคมคนใหม่ -“ศักดิ์สยาม” ชูเกณฑ์วิสัยทัศน์ดี เลือกโปร่งใส

“ภูมิใจไทย” เคาะ “ชยธรรม์” นั่งปลัดคมนาคมคนใหม่ ชง ครม.สัญจร 25 ส.ค.นี้ “ศักดิ์สยาม” เปิดระดับ 10 ส่งวิสัยทัศน์แข่ง ชูกระบวนการคัดเลือกชอบธรรม โปร่งใส แก้ปมอาวุโสน้อย ส่วนอธิบดีสายบุรีรัมย์ขอยึดเก้าอี้เดิมต่อ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า จากที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ใช้แนวทางการคัดเลือกปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ แทนนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม คนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2563 โดยให้มีการเขียนแสดงวิสัยทัศน์การทำงานในตำแหน่งปลัดคมนาคมไม่เกิน 3 หน้า และส่งกลับภายในเวลา 16.30 น.ของวันที่ 21 ส.ค. ซึ่งผู้บริหารระดับ 10 ของกระทรวงคมนาคมที่มีคุณสมบัติเข้ารับการคัดเลือกเป็นปลัดฯ มีทั้งหมด 11 คน ซึ่งไม่ส่งวิสัยทัศน์ประมาณครึ่งหนึ่ง

ด้านอธิบดีในสายบุรีรัมย์ส่วนใหญ่ไม่ส่งวิสัยทัศน์เข้าชิงเก้าอี้ปลัดฯ คมนาคม ทั้งนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.), นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.), นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) โดยระบุว่าเพิ่งรับตำแหน่งเพียง 1 ปี ดังนั้นจึงต้องการทำงานต่อในตำแหน่งเดิมเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง

แหล่งข่าวระบุว่า ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้ข้อสรุปแล้วว่าจะเสนอชื่อ นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่ จ.ระยอง วันที่ 25 ส.ค.

ทั้งนี้ แม้ว่านายชยธรรม์ ะมีความอาวุโสค่อนข้างน้อย การครองตำแหน่งระดับ 10 เมื่อเทียบกับผู้บริหารคนอื่นอาจจะอาวุโสน้อยกว่า เนื่องจากเพิ่งขึ้นระดับ 10 ในตำแหน่ง ผอ.สนข.เพียง 1 ปีเท่านั้น โดยได้รับอนุมัติจาก ครม.เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2562 และมีอายุราชการเหลืออีกหลายปี โดยจะเกษียณในปี 2569 แต่ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาถือเป็นบุคคลที่ทำงานใกล้ชิดกับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม อย่างมาก โดยได้รับมอบหมายให้ทำแผนงานโครงสร้างพื้นฐานการลงทุน และเป็นคณะทำงานในการศึกษาพิจารณาเรื่องสำคัญ เช่น การต่อสัญญาทางด่วน, แก้ปัญหาการก่อสร้างและรถติดบนถนนพระราม 2, ศึกษาการพัฒนาโครงข่ายร่วมกันระหว่างทางรถไฟกับทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง เป็นแผนแม่บทมอเตอร์เวย์-รถไฟทางคู่ (MR-MAP) เป็นต้น

นอกจากนายชยธรรม์แล้ว มีผู้บริหารบางส่วนที่ส่งวิสัยทัศน์ เช่น นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม, นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม, นางสาวดุจดาว เจริญผล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ซึ่งเป็นการให้ความร่วมมือ ไม่ได้คาดหวังในการคัดเลือกแต่อย่างใด

แหล่งข่าวกล่าวว่า รมว.คมนาคมมีอำนาจในการพิจารณาบุคคลที่จะตั้งเป็นปลัดกระทรวงฯ อยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้มีการคาดหมายว่าปลัดคมนาคมคนใหม่มีแคนดิเดตจาก 3 อธิบดีสายบุรีรัมย์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้ง นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง มีอาวุโส เนื่องจากขึ้นเป็นระดับ 10 ในตำแหน่งผู้ตรวจกระทรวงฯ ตั้งแต่ปี 2560 ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็น ผอ.สนข. และอธิบดีกรมการขนส่งทางราง และเป็นอธิบดีกรมทางหลวง โดย ครม.มีมติแต่งตั้งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2562 พร้อมกับ นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท และนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก

แต่เมื่อส่วนใหญ่ยังต้องการอยู่ในตำแหน่งอธิบดี ทำให้จึงมีเพียงนายจิรุตม์ที่ระบุว่าการแต่งตั้งเป็นอำนาจฝ่ายนโยบาย และถูกคาดหมายว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นปลัดคมนาคม

ส่วนนายชยธรรม์ ที่มีอาวุโสน้อย และเหลืออายุราชการมากกว่า ซึ่งการเปิดให้ระดับ 10 เขียนวิสัยทัศน์ ส่งเข้ามาเพื่อคัดเลือก แสดงให้เห็นว่าเป็นวิธีที่จะทำให้ไม่ให้เกิดข้อท้วงติงเรื่องความอาวุโส เพราะถือว่า ได้ใช้กระบวนการคัดเลือกที่ชอบธรรม โปร่งใส ขณะที่ผู้ที่ไม่ส่งวิสัยทัศน์เข้ามาถือว่าเป็นผู้สละสิทธิ์ที่จะเข้ารับการคัดเลือกเอง

จากโจทย์ที่กำหนดให้เขียนวิสัยทัศน์ ที่ต้องแสดงถึงความรู้ ความสามารถในการเชื่อมโยงภารกิจหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนการปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและนโยบายของรัฐบาล เป้าหมายของกระทรวงคมนาคมและ รมว.คมนาคม รวมทั้งการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และต่อยอด ขยายผลเพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก ปลอดภัย

และให้เสนอผลงานด้านการบริหารจัดการที่เป็นการนำนวัตกรรมในการทำงานมาใช้ในการบริหารราชการและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่ประสบความสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ที่ดีที่สุด จำนวน 1 ผลงาน ล้วนเป็นงานที่เกี่ยวข้อง สนข.ในฐานะผู้จัดทำแผนงานหลักของคมนาคม

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ระบุถึงสาเหตุที่ให้เขียนแสดงวิสัยทัศน์ว่าเป็นระบบคุณธรรม ที่จะต้องเปิดโอกาสให้แสดงความรู้ความสามารถที่จับต้องได้ ไม่ใช่เลือกแบบคิดเอาเองและไม่ให้เกิดเรื่องอคติหรือลำเอียง ซึ่งไม่ได้บังคับ ใครไม่ประสงค์จะเข้ารับการคัดเลือกไม่ต้องส่งวิสัยทัศน์