xs
xsm
sm
md
lg

IRPC ลุ้นครึ่งปีหลังดีมานด์พลาสติกพุ่ง-มีกำไรสต๊อกน้ำมัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



IRPC ลุ้นครึ่งปีหลังความต้องการใช้เม็ดพลาสติกเพิ่มขึ้น คาดราคาน้ำมันดิบเฉลี่ย 40-45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หนุนมีกำไรจากสต๊อกน้ำมัน พร้อมปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจสร้างความเข้มแข็งรับมือโควิด-19                                                                           นายนพดล ปิ่นสุภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดแนวโน้มครึ่งปีหลังความต้องการผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านปรับตัวสูงขึ้น ราคาน้ำมันดิบครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ประมาณ 40-45 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล บริษัทฯ อาจได้รับประโยชน์จาก Stock gain และจากปริมาณความต้องการของตลาดจะปรับตัวดีขึ้น เป็นผลมาจากการทยอยผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ของหลายประเทศที่ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาดำเนินการได้มากขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ เล็งเห็นถึงโอกาสภายใต้วิกฤติจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมทั้งต้นทุนในการซื้อน้ำมันดิบ (Crude Premium) ปรับตัวลดลง ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 ปรับตัวดีขึ้น 
เพื่อรับมือความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่เกิดจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมันทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รักษาความสามารถในการแข่งขันและความสามารถในการทำกำไรผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. Maintain Strong Market Position สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ด้วยการขยายส่วนแบ่งการตลาดในประเทศ ควบคู่ไปกับการเสาะหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในส่วนของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มที่ตอบโจทย์วิถีการดำรงชีวิตรูปแบบใหม่ (New Normal) และ Mega trend โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยรูปแบบและวิธีการทำงานร่วมกันระหว่างลูกค้า ฝ่ายการตลาด และนักวิจัยของ IRPC พร้อมทั้งเพิ่มช่องทางการขายผ่าน E-Commerce

2. CAPEX & OPEX Reduction จัดลำดับความสำคัญของโครงการลงทุนและปรับลดค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 3. โครงการ Strengthen IRPC บริหารจัดการสินค้าคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เช่น การเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบคงคลังในช่วงราคาต่ำ (Strategic Crude) เพิ่มช่องทางจำหน่ายน้ำมันทั่วประเทศผ่านระบบท่อ ขุดลอกร่องทางเดินเรือรองรับเรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนค่าขนส่งน้ำมันดิบต่อหน่วย พร้อมทั้งนำระบบดิจิทัลมาใช้ทั่วทั้งองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนในระยะยาว 
สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 IRPC มีกำไรขั้นต้นจากการผลิตตามราคาตลาด (Market GIM) อยู่ที่ 4,669  ล้านบาท (8.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล) เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากต้นทุนน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี โดยเฉพาะกลุ่มบรรจุภัณฑ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านปรับตัวดีขึ้น แม้ว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่วนใหญ่ยังคงถูกกดดันจากความต้องการที่ปรับตัวลดลง 
ส่วนความผันผวนของราคาน้ำมันดิบในไตรมาส 2/2563 โดยในช่วงต้นไตรมาสปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2563 และเริ่มฟื้นตัวในเดือนพฤษภาคม 2563 ทำให้ IRPC มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันสุทธิรวม 89 ล้านบาท หรือ 0.17 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ IRPC มีกำไรจากการผลิตทางบัญชี (Accounting GIM) จำนวน 4,758 ล้านบาท หรือ 8.63 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เทียบกับไตรมาสก่อนที่มีผลขาดทุนของ Accounting GIM จำนวน 3,146 ล้านบาท ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2563 มีผลขาดทุนสุทธิ 411 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1 /2563 ถึง 8,494 ล้านบาท แต่ก็ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2562 ที่มีกำไรสุทธิ 506.93 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น