ปตท.พลิกมีกำไรในไตรมาส 2/63 อยู่ที่ 1.2 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบไตรมาส 1/63 ที่ขาดทุน แต่กำไรลดลง 53.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลจากรายได้ที่ปรับลดลงจากกลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ธุรกิจก๊าซฯ และน้ำมัน ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้กำไรวูบ 81%
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2/2563 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 12,053.29 ล้านบาท ลดลง 53.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 25,938.13 ล้านบาท โดยไตรมาส 2/2563 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 341,325 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 40.2 จากทุกกลุ่มธุรกิจทั้งราคาและปริมาณขายเฉลี่ยที่ลดลง
ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ (EBITDA) ในไตรมาส 2/63 จำนวน 54,208 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 26.6 สาเหตุหลักมาจากธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่มีผลการดำเนินงานลดลงตามราคาและปริมาณการขายที่ปรับตัวลดลง แม้ในไตรมาส 2 นี้จะมีปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นในโครงการมาเลเซียและกลุ่มพาร์เท็กซ์ รวมถึงกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติที่มีผลการดำเนินงานลดลง โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ เนื่องจากราคาขายที่ลดลงตามการปิดซ่อมบำรุงและการปรับลดกำลังการผลิต และธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ เนื่องจากปริมาณขายกลุ่มลูกค้าโรงไฟฟ้าลดลง และราคาขายอ้างอิงราคาน้ำมันเตาลดลง
ส่วนกลุ่มธุรกิจน้ำมันมีผลการดำเนินงานลดลงจากปริมาณขายที่ลดลงจากผลกระทบโควิด-19 แต่กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น มาจากการรักษาความสามารถในการสร้างผลกำไรและเพิ่มโอกาสการค้าข้ามทวีปในภาวะตลาดเอื้ออำนวย และกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมี EBITDA ที่ดีขึ้นจากกำไรสต๊อกน้ำมันในไตรมาส 2/63 ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ว่า Market GRM ปรับลดลงตามส่วนต่าง ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมกับน้ำมันดิบส่วนใหญ่ที่ลดลง อีกทั้งส่วนต่าง ราคาผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับลดลงเช่นกัน
กอปรกับมีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในไตรมาส 2 นี้แม้ว่าจะมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้สกุลต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเหรียญสหรัฐและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่ลดลงก็ตาม
แต่เมื่อเปรียบเทียบไตรมาส 2/63 พบว่า ปตท.มีกำไรสุทธิเติบโตกว่าร้อยละ 100 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2563 ที่ขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท
ส่วนงวด 6 เดือนแรกปีนี้ ปตท.มีกำไรสุทธิ 10,498.93 ล้านบาท ลดลง 81% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 55,250.21 ล้านบาท เป็นผลจาก EBITDA ที่ลดลงรวมถึงค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
โดยผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2563 ปตท.และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายลดลงจากช่วงครึ่งแรกของปี 2562 จำนวน 296,304 ล้านบาท หรือร้อยละ 26.4 จากเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ ตามราคาขายเฉลี่ยและปริมาณขายที่ลดลง
เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสงครามการค้าได้ส่งผละกระทบต่อทุกอุตสาหกรรม รวมทั้งพลังงาน ดังนั้น กลุ่ม ปตท.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการบริหารจัดการและออกมาตรการต่างๆ ทั้งระยะสั้น และระยะยาว รวมทั้งรักษาสภาพคล่องและความเข้มแข็งทางการเงิน