กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจับมือสภาเกษตรกรแห่งชาติลงพื้นที่สระบุรี แนะนำเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปใช้ประโยชน์จาก FTA ในการขยายตลาดต่างประเทศ พบข้าวโพดราชินีทับทิมสยาม และข้าวกล้องอินทรีย์ มีความพร้อมและมีศักยภาพสูง เตรียมลุยต่อพิษณุโลก ก.ย.นี้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมากรมฯ ได้ร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี เพื่อพบปะหารือกับกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป และช่วยในการเตรียมความพร้อมสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยรองรับการค้ายุคนิวนอร์มัล โดยเฉพาะการพัฒนาจุดแข็งและความได้เปรียบของสินค้าเกษตรไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และแนะนำการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้
โดยได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานและแปลงข้าวโพดพันธุ์ราชินีทับทิมสยามของบริษัท วิจัยพัฒนาเมล็ดพันธุ์ไทย จำกัด และเยี่ยมชมแปลงนาและโรงสีข้าว ซึ่งพัฒนามาเป็นข้าวกล้องอินทรีย์จำหน่ายและส่งออกโดยบริษัท Nature Food Products and Marketing จำกัด ซึ่งพบว่าสินค้าของทั้งสองแห่งมีศักยภาพและมีความพร้อม จึงได้มีการหารือเรื่องการค้าและโอกาสการส่งออกภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งพบว่าแม้สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อยอดขายในประเทศ แต่ยอดส่งออกไปต่างประเทศของข้าวกล้องอินทรีย์และข้าวโพดราชินีทับทิมกลับขยายตัวเพิ่มขึ้น จึงได้แนะนำให้ใช้ประโยชน์จาก FTA ในการส่งออกด้วย
ทั้งนี้ ในปัจจุบันไทยทำ FTA 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ เช่น อาเซียน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น ได้ช่วยสร้างแต้มต่อในการแข่งขันให้กับสินค้าไทยจากการที่ประเทศคู่เจรจา FTA ได้ลดเลิกการเก็บภาษีนำเข้ากับสินค้าที่ส่งออกจากไทยแล้ว ทำให้สินค้าไทยได้แต้มต่อเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ในปีนี้กรมฯ และสภาเกษตรกรแห่งชาติได้ลงพื้นที่ในภาคอีสานตอนล่าง (บุรีรัมย์) และภาคกลางตอนล่าง (เพชรบุรี) แล้ว และมีแผนที่จะลงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง (พิษณุโลก) ในเดือน ก.ย. 2563 ต่อไป
อนึ่ง ในช่วง 6 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) ไทยขยับเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตร (พิกัด 01-24 รวมผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และยางพารา) อันดับที่ 9 ของโลก จากที่อยู่อันดับ 11 ในปี 2562 โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยไป 18 ประเทศที่ไทยมี FTA ด้วย มีมูลค่า 13,117 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 0.1% คิดเป็นสัดส่วน 66.92% ของการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปทั้งหมดของไทยไปตลาดโลก