“จุรินทร์” โชว์ผลงานที่ผลักดันสำเร็จในรอบ 1 ปี การทำงานที่กระทรวงพาณิชย์เด่นสุดผลักดันโครงการประกันรายได้สำเร็จใน 5 เดือน เป็นหัวหน้าทีมเซลส์แมนหารายได้เข้าประเทศ โกยกว่า 9 หมื่นล้าน ผนึกกำลังรัฐและเอกชนแก้ปัญหาอุปสรรคการค้า ผลักดันการค้าชายแดน พร้อมลุยลดราคาสินค้า ช่วยลดค่าครองชีพประชาชนถึง 5 ล็อต
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการแถลงผลงาน 1 ปีกระทรวงพาณิชย์ ว่า มีผลการทำงานที่โดดเด่นเป็นจำนวนมาก โดยผลงานที่ประสบความสำเร็จและทำได้เร็ว ก็คือ การประกันรายได้เกษตรกรพืช 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพด สามารถทำสำเร็จได้ตั้งแต่ช่วง 5 เดือนแรกหลังจากเข้ามาทำงาน โดยล่าสุดจ่ายเงินส่วนต่างแล้ว 71,210 ล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรได้ 7.29 ล้านครอบครัว และในฤดูการผลิตปี 2563/64 จะเดินหน้าโครงการประกันรายได้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ทยอยเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติดำเนินการแล้ว
ส่วนในด้านการขับเคลื่อนการค้า ได้ตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) กระทรวงพาณิชย์ เป็นครั้งแรก เพื่อทำงานแก้ปัญหาและผลักดันการส่งออกของไทย ได้มีการเปลี่ยนบทบาททูตพาณิชย์เป็นเซลส์แมนประเทศ และพาณิชย์จังหวัดเป็นเซลส์แมนจังหวัด เพื่อผลักดันการค้าและการส่งออก และยังได้ทำหน้าที่เซลส์แมนประเทศด้วยตนเอง นำภาคเอกชนเดินทางไปขายสินค้าในหลายประเทศ และได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการซื้อขายสินค้าระหว่างผู้ส่งออกไทยกับผู้ซื้อต่างประเทศ ในหลายสินค้า มูลค่า 94,822 ล้านบาท และยังมีการจัดงานแสดงสินค้าไทย จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ สร้างรายได้เข้าประเทศ 54,192 ล้านบาท ผลักดันการค้าชายแดน สร้างมูลค่าการค้าได้ 1.02 ล้านล้านบาท พร้อมเร่งแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า และผลักดันการเปิดด่านการค้า รวมทั้งผลักดันให้อาเซียนและคู่เจรจา 6 ประเทศ สามารถปิดการเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ได้หลังจากเจรจามายาวนานถึง 7 ปี
ส่วนการลดค่าครองชีพประชาชน ได้จัดโครงการ พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน 5 ล็อต สามารถลดค่าครองชีพให้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท, ช่วยยกระดับโชวห่วยเป็นสมาร์ทโชวห่วยได้กว่า 28,000 แห่ง และยกระดับสมาร์ทโชวห่วยขึ้นเป็นสมาร์ทโชวห่วยดีลิเวอรี ที่ส่งสินค้าถึงบ้านผู้ซื้อได้ 2,155 ร้านค้า, ช่วยเหลือกลุ่มซาเล้ง แก้ปัญหาราคาเศษกระดาษตกต่ำ, ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ในภูมิภาค, กำกับดูแลราคายา ค่าบริการโรงพยาบาลเอกชน, ริเริ่มวิสัยทัศน์เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด, ผลักดันโครงการอาหารไทย อาหารโลก, เร่งรัดขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และเตรียมจัดงานศิลปาชีพ “ทอใจวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี”