ผู้จัดการรายวัน360- ลุ้นโลจิสติกส์ฝ่าโควิด-19 ทะลุ 66,000 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้ “เบสท์ เอ็กซ์เพรส” กางแผน5ปี อัดงบ 5,000 ล้านบาทลุย สู่เป้าหมายในปี2565 ขยายแฟรนไชส์ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 2,000 สาขา ปลื้มปี63 นี้รายได้โตพรวด 10 เท่า
นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ เบสท์ ประเทศไทย บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี2563ที่ผ่านมาส่งผลให้รูปแบบการดำเนินชีวิตของคนในยุคนี้เปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีชีวิตแบบปกติใหม่ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากออฟไลน์ สู่ ออนไลน์ มากขึ้น โดยในปี 2563 นี้ มองว่าภาพรวมโลจิสติกส์หรือธุรกิจขนส่งพัสดุ จะเติบโตขึ้นราว 35% คิดเป็นมูลค่ากว่า 66,000 ล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 49,000 ล้านบาท
ขณะที่ปี 2560-2562 โต40% ต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของตลาดอี-คอมเมิร์ซที่โต 18% ต่อเนื่องเช่นกัน จากปี2562 มีมูลค่า 4,816 ล้านดอลล่าห์สหรัฐ เพิ่มเป็น 5,572 ล้านดอลล่าห์สหรัฐในปี2563นี้
สำหรับภาพรวมของเบสท์ เอ็กซ์เพรสในครึ่งปีแรก ซึ่งอยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นความท้าทายของภาคธุรกิจทุกกลุ่มที่ต้องมีการปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่หัวใจสำคัญ คือ การให้บริการที่เน้นเรื่องปลอดภัยสำหรับลูกค้าทุกคน โดยในส่วนของ เบสท์ เอ็กซ์เพรสมั่นใจว่า ปีนี้จะมีรายได้เติบโตขึ้น 10 เท่า จากผลบวกพฤติกรรมผู้บริโภคที่ช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น อีคอมเมิร์ซโตขึ้น ทำให้ยอดการให้บริการเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้
“สำหรับแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง 2563 แบ่งเป็นแผนระยะสั้น โดย “เบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Express)” ขยายฐานการตลาดลงพื้นที่ท้องถิ่น (Local Market) เพื่อให้แฟรนไชส์ในแต่ละจังหวัดได้เข้าถึงการทำการตลาดท้องถิ่นของตนเองมากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าท้องถิ่นทั่วไป พร้อมปรับรูปแบบวัฒนธรรมองค์กรให้มีความเป็นไทยเพื่อเข้าถึงใจพนักงานท้องถิ่นในแต่ละจังหวัด รวมทั้งขยายศูนย์กระจายสินค้าเพื่อเป็นศูนย์กลางของธุรกิจห่วงโซ่อุปทาน หรือ “HUB Supply Chain” ในการรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนแผนระยะยาว เตรียมผนึกรวมเครือข่ายของ “เบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Express)” ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรวมเป็นหนึ่งเดียวกันภายใต้ “BEST Global” พร้อมเน้นการขยายแฟรนไชส์ท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เนื่องจากแฟรนไชส์ คือ กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีที่จะมีการเติบโตขยายสาขาเพิ่มขึ้นและสามารถยืนด้วยความสำเร็จตัวเองได้ พร้อมก้าวสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน ทั้งนี้ “เบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Express)” มุ่งมั่นในการสนับสนุนคู่ค้าพันธมิตรธุรกิจอีคอมเมิร์ซและแฟรนไชน์ท้องถิ่น เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจแต่ละรายมีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด” นายเจสัน เชียน กล่าว
นางสาวณัฎฐรัก ดิลกพิทยะรัชต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส เบสท์ ประเทศไทย บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แผนการดำเนินงานใน 5ปีจากนี้ ( 2563-2567) บริษัทพร้อมใช้เงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบเทคโนโลยี คลังสินค้า การบริการ และการขยายสาขา
โดยปีนี้พร้อมใช้งบลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายสาขาครึ่งปีหลังในรูปแบบแฟรนไชส์ให้ได้ 800 สาขา ปัจจุบัน “เบสท์ เอ็กซ์เพรส” มีแฟรนไชส์อยู่ทั่วประเทศมากกว่า 500 สาขา ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์หลัก (First Station) แฟรนไชส์รอง (Second Station) ช้อป (Shop) และจุดรับพัสดุ (Drop Point) โดยคาดการณ์ว่าในปี 2563 “เบสท์ เอ็กซ์เพรส (BEST Express)” ตั้งเป้าจะเพิ่มแฟรนไชส์ทั้ง 4 ประเภท อีกกว่า 800 สาขา และยิ่งกว่านั้นในปี 2565 จะเพิ่มแฟรนไชส์ทั้ง 4 ประเภท ให้ครอบคลุมทั่วไทยมากถึง 2,000 สาขา นอกจากนี้ยังพร้อมขยายคลังสินค้าจาก 7 แห่ง เป็น10 กว่าแห่งในสิ้นปีนี้ รวมถึงพนักงานขนส่งที่มีอยู่ 3,000 คน เพิ่มเป็น 5,000 คนในสิ้นปีนี้เช่นกันเพื่อการให้บริการอย่างทั่วถึงสู่การบริการเป็นเลิศ
อย่างไรก็ตาม เบสท์ เอ็กซ์เพรส เข้ามาทำตลาดในไทยตั้งแต่ปี 2563 โดยแต่ละปีใช้งบการทำตลาด 10% ของรายได้ ซึ่งปีนี้จากสถานการณ์โควิด-19 มองเห็นช่องทางการทำตลาดมากขึ้น เน้นกิจกรรมการตลาดที่สอดคล้องวิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ชูจุดเด่นความเป็น One Stop Integrated Supply Chain Services สร้างคุณค่าไปยังลูกค้ามากที่สุด ในต้นทุนที่ต่ำสุดและรวดเร็วที่สุด ด้วยบริการรับพัสดุถึงหน้าบ้านฟรีไม่จำกัดจำนวนชิ้น และเก็บเงินปลายทางภายใน 1วัน โดยยังคงให้ ณเดชน์ คูกิมิยะ เป็นพรีเซ็นเตอร์ และใช้ “น้องกวางเบสท์” หรือ Dear เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์คู่กับพรีเซ็นเตอร์.