“พาณิชย์-เกษตร” ผนึกกำลังดันอาหารไทย อาหารโลก มั่นใจอันดับส่งออกในตลาดโลกขยับขึ้นได้อีก หลังล่าสุดอยู่ที่ 11 เหตุเจอวิกฤตเศรษฐกิจ สงครามการค้า บาทแข็ง และโควิด-19 แต่ไทยยังส่งออกอาหารได้เพิ่มขึ้น เตรียมลุยผลักดันเพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรม ทำตลาดเชิงรุก ส่งเสริมโลจิสติกส์ แก้ไขกฎระเบียบ เจรจาเปิดตลาด และเตรียมพร้อมค้าขายหลังยุคโควิด-19
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเปิดงาน “อาหารไทย อาหารโลก” ภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ว่า ปัจจุบันการส่งออกสินค้าอาหารของไทยขึ้นไปอยู่ลำดับที่ 11 ของโลก โอกาสที่จะขึ้นสู่อันดับต่อไปก็มีความเป็นไปได้ เพราะภายใต้สถานการณ์โลกที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ไทยต้องเผชิญกับปัญหาเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า ค่าเงินบาทแข็ง และล่าสุดสถานการณ์โควิด-19 แต่การส่งออกอาหารของไทยยังเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีศักยภาพ และหากถามว่าอาหารไทยจะพัฒนาขึ้นไปเป็นอาหารโลก มีความเป็นไปได้หรือไม่ ก็ต้องตอบตรงนี้เลยว่าเป็นไปได้
“การส่งออกอาหารของประเทศไทยยังเดินหน้าต่อไปได้อย่างมีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ อาหารทะเลแช่แข็ง ไก่สดแช่แข็ง ทูน่ากระป๋อง กุ้งสดแช่แข็ง แปรรูป น้ำตาลทราย เครื่องดื่ม เครื่องปรุงรส หรืออาหารสัตว์เลี้ยง ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นลำดับที่ 4 ของโลก” นายจุรินทร์กล่าว
สำหรับปัจจัยที่จะสนับสนุนให้อาหารไทยเป็นอาหารโลก มีเหตุผลจากการที่ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม มีวัตถุดิบ การแปรรูป และการตลาดไม่แพ้ประเทศใด อาหารไทยเป็นที่ยอมรับในคุณภาพมาตรฐาน มีอัตลักษณ์และมีความหลากหลาย มีการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของโลกสมัยใหม่ อย่างเช่นมีสมุนไพรเป็นส่วนผสม ผู้ประกอบการมีศักยภาพ และมีการนำนวัตกรรมมาใช้ในการผลิต
ส่วนแนวทางการทำงาน จะผลักดันให้มีการเพิ่มมูลค่าอาหารไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม จะเดินหน้าทำตลาดเชิงรุกด้วยการรักษาตลาดเดิม เพิ่มตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่าที่มีอยู่ โดยการทำตลาดจะมีพาณิชย์จังหวัดเป็นเซลส์แมนของจังหวัด และระดับประเทศมีทูตพาณิชย์เป็นเซลส์แมนของประเทศ ที่จะร่วมมือกันทำตลาดร่วมกับภาคเอกชนทั้งออฟไลน์ และออนไลน์
นอกจากนี้ จะเร่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านโลจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนและใช้ระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมการตลาดในประเทศและส่งออก รวมทั้งจะเร่งปรับปรุงกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรค และเดินหน้าการทำข้อตกลงการค้าทั้งพหุภาคี ทวิภาคี และรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้ไทยมีความได้เปรียบทางการค้า ขณะเดียวกัน ต้องเตรียมความพร้อมในการผลักดันอาหารไทยหลังเข้าสู่ยุคหลังวิกฤตโควิด-19 เพื่อผลักดันให้อาหารไทยไปเป็นอาหารโลกต่อไปในอนาคต
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ จะเน้นการรักษาคุณภาพ และผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปช่วยปฏิรูปภาคการเกษตร ผลักดันให้เกษตรกรก้าวผ่านวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ให้ก้าวไปสู่เกษตรกรทันสมัย เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต และยังได้เน้นนโยบายเกษตรปลอดภัยและเกษตรอินทรีย์ เพื่อเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตอาหาร และยังจะเดินหน้าต่อเพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น