xs
xsm
sm
md
lg

อาเซียน-จีน-ฮ่องกงนิยมมะม่วงไทย เอฟทีเอช่วยหนุนส่งออก 5 เดือนเพิ่ม 4%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผย “มะม่วงสด” เป็นสินค้าดาวเด่น แม้เกิดวิกฤตโควิด-19 ส่งออก 5 เดือนปี 63 ยังโต มีปริมาณ 5.7 หมื่นตัน มูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 4% อาเซียนขึ้นแท่นตลาดเบอร์หนึ่ง เพิ่ม 143% ตามด้วยจีนและฮ่องกง เหตุได้แรงหนุนจากเอฟทีเอที่มีการลดภาษี แนะผู้ประกอบการให้ความสำคัญต่อมาตรฐาน และเน้นผลิตสินค้าปลอดสารพิษ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า มะม่วงสดของไทยเป็นหนึ่งในสินค้าดาวเด่นมาแรง สามารถทำยอดส่งออกได้ดี แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดยในช่วง 5 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-พ.ค.) ส่งออกปริมาณ 5.7 หมื่นตัน มูลค่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% ส่งออกไปตลาดอาเซียนขยายตัวโดดเด่นสุด มูลค่า 15.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 143% คิดเป็นสัดส่วน 37.5% ของการส่งออกทั้งหมด มีตลาดส่งออกหลัก เช่น มาเลเซีย เวียดนาม และ สปป.ลาว และยังมีจีนที่นิยมมะม่วงสดจากไทย มีมูลค่าส่งออก 5.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 71% และฮ่องกง มูลค่า 8.5 แสนเหรียญสหรัฐ เพิ่ม 196%

ปัจจัยที่มีส่วนช่วยสนับสนุนการส่งออกมะม่วงสดของไทย ก็คือ ความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่คู่เจรจาได้มีการปรับลดภาษีนำเข้า โดยปัจจุบันประเทศคู่เจรจาเอฟทีเอ 15 ประเทศไม่เก็บภาษีนำเข้ามะม่วงสดจากไทยแล้ว ได้แก่ สมาชิกอาเซียน 7 ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม พม่า และมาเลเซีย) จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู เหลือเพียง 3 ประเทศที่ยังเก็บภาษีนำเข้าจากไทย ได้แก่ สปป.ลาว และกัมพูชา เก็บภาษีนำเข้า 5% และเกาหลีใต้ เก็บภาษีนำเข้า 24%

“นอกจากแต้มต่อจากเอฟทีเอแล้ว ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญต่อการรักษามาตรฐานสินค้าและพัฒนาคุณภาพการผลิตอย่างสม่ำเสมอ ตั้งแต่การเพาะปลูก การบรรจุหีบห่อ การมีใบรับรองสุขอนามัยพืช รวมทั้งระมัดระวังการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง เนื่องจากปัจจุบันหลายประเทศเข้มงวดและผู้บริโภคนิยมผลไม้ปลอดสารพิษหรือเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น” นางอรมนกล่าว

ปัจจุบันไทยครองแชมป์ผู้ส่งออกมะม่วงสดอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 7 ของโลก โดยในปี 2562 ไทยส่งออกมะม่วงสดไปตลาดโลกมูลค่า 59 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งออกไปประเทศที่มีเอฟทีเอ มูลค่า 57 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 96% ของการส่งออกมะม่วงสดทั้งหมด

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติมูลค่าการส่งออกมะม่วงสดของไทยไปประเทศคู่เอฟทีเอในปี 2562 กับปี 2535 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ความตกลงเอฟทีเอฉบับแรกของไทยกับอาเซียนจะมีผลบังคับใช้ พบว่ามูลค่าการส่งออกมะม่วงสดเพิ่มสูงขึ้นถึง 4,920% และหากแยกรายตลาด พบว่ามีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะอาเซียนเพิ่ม 1,000% จีนเพิ่ม 1,365,775% เมื่อเทียบกับปี 2545 ก่อนจีนยกเลิกภาษีนำเข้าภายใต้เอฟทีเออาเซียน-จีน และเกาหลีใต้ เพิ่ม 4,824% เมื่อเทียบกับปี 2552 ก่อนเกาหลีใต้ลดภาษีนำเข้าภายใต้เอฟทีเออาเซียน-เกาหลีใต้


กำลังโหลดความคิดเห็น