สมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) แสดงจุดยืนหลังรัฐบาลเห็นชอบร่างประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยระบุว่า ร่างประกาศดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ส่งเสริมการเว้นระยะห่างทางสังคมท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สวนทางกับความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal อีกทั้งยังเป็นการซ้ำเติมและสร้างความเดือดร้อนต่อผู้ประกอบการที่ธุรกิจยังไม่ฟื้นตัวจากการหยุดดำเนินธุรกิจชั่วคราวในช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งหมดนี้จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยิ่งกว่าเดิม พร้อมเรียกร้องให้มีการพิจารณายกเลิกร่างประกาศดังกล่าว
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติได้มีมติเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยวิธีการหรือในลักษณะการขายทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันเยาวชนไม่ให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย และเพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์ให้กับผู้บริโภคโดยตรงนั้น ทางสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย หรือ TABBA มีความเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศฯ ดังกล่าวว่า การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์นั้นเป็นมาตรการที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ประกอบการ จำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
นายธนากร คุปตจิตต์ นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย หรือ TABBA กล่าวว่า “(ร่าง) ประกาศฯ ดังกล่าว ไม่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์และมาตรการของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่รณรงค์ให้ประชาชนเว้นระยะห่างทางสังคม ลดการเดินทางที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังขัดต่อแนวทางการส่งเสริมนวัตกรรมและการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่หลายธุรกิจหันมาให้ความสำคัญ ซึ่งไม่เพียงเป็นหนึ่งในรูปแบบการใช้ชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal แต่ยังเป็นทิศทางที่หลายประเทศให้ความสำคัญ”
ไม่เพียงเท่านี้ TABBA ยังเห็นว่า การเห็นชอบ (ร่าง) ประกาศฯ ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างสุจริตและถูกต้องตามกฎหมาย เพราะเมื่อไม่สามารถจำหน่ายทางออนไลน์ได้ ธุรกิจเหล่านี้ก็ต้องปิดตัวลง กลายเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ อีกทั้ง ผู้ประกอบการที่ลักลอบดำเนินธุรกิจแบบผิดกฎหมาย ทั้งการจำหน่ายสินค้าปลอมหรือสินค้าหนีภาษี ก็จะสามารถใช้ประโยชน์จากการปิดกิจการของผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องอีกด้วย
นอกจากนี้ การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์ยังถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและผู้บริโภคในการเลือกหาสินค้าและบริการ สิทธิในการได้รับความปลอดภัยจากการซื้อสินค้าและบริการ สิทธิที่จะได้รับบริการที่ดีที่สุด และสิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการหลีกเลี่ยงการเดินทาง
ต่อข้ออธิบายของรัฐบาลที่ว่า (ร่าง) ประกาศห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์จะช่วยป้องกันเยาวชนไม่ให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่ายนั้น ทาง TABBA เห็นว่า การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปได้ โดยผู้ประกอบการต้องดำเนินการให้มีตรวจสอบอายุผู้ซื้อ การบันทึกข้อมูลผู้ซื้อ เวลาทำธุรกรรมซื้อขาย และการจัดส่งสินค้า ซึ่งไม่ตรงกับเหตุผลของการออก (ร่าง) ประกาศฯ ที่ว่า การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์นั้นยากต่อการควบคุมเกี่ยวกับเรื่องวัน เวลา สถานที่ และบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด รัฐบาลจึงไม่มีความจำเป็นในการออก (ร่าง) ประกาศฯ ดังกล่าว
“ภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการปฎิบัติตามกฎหมาย หากตัวกฎหมายมีความยุติธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ทางสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณายกเลิก (ร่าง) ประกาศฯ ดังกล่าว เพราะไม่มีความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ ผู้บริโภค และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม แต่ในทางกลับกัน ภาครัฐควรดำเนินการกับผู้ประกอบการที่ลักลอบดำเนินธุรกิจออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปลอมหรือหนีภาษีอย่างเปิดเผย พบเห็นได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างปัญหาการเข้าถึงของเด็กและเยาวชน มีผลต่อสุขภาพ ตลอดจนเป็นสาเหตุให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษี ซึ่งมิใช่มาออกมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามร่างประกาศฉบับนี้ ซึ่งเท่ากับเป็นการลงโทษผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโดยสุจริตนอกจากนี้ รัฐบาลควรพิจารณาการบังคับใช้พระราชบัญญัติเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ที่มีอยู่แล้วให้เกิดประสิทธิภาพ และควรช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและเข้าใจกฎหมายได้โดยง่าย เพื่อที่ประชาชนจะได้ปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างถูกต้อง มีการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการสร้างองค์ความรู้และการตระหนักรู้เกี่ยวกับโทษของการดื่มอย่างเป็นอันตราย หรือ Harmful Use of Alcohol ให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่องและทั่วถึง ซึ่งภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในเรื่องดังกล่าว” นายธนากร กล่าวสรุป
(Thai Alcoholic Beverage Business Association: TABBA) ก่อตั้งขึ้นในเดือนสิงหาคม พศ. 2552 โดยผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์7 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริวเวอรี่ จำกัด, บริษัท บาคาร์ดี(ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บราวน์ ฟอร์แมน(ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด, บริษัทสยามไวเนอรี่เทรดดิ้ง พลัส จำกัด และบริษัทอินดิเพนเดนท์ ไวน์ แอนด์ สปิริต (ประเทศไทย) จำกัด