ปตท.ลั่นปีนี้กำไรวูบต่ำกว่าปี 62 จากผลพวงโควิด19และสงครามน้ำมัน แต่ยืนยันมีการจ่ายปันผลแน่นอน พร้อมรักษาสภาพคล่องและอันดับเครดิตไม่ให้ลด ส่วนการนำORเข้าตลาดหุ้นขึ้นอยู่กับภาวะตลาด ย้ำมีเวลา 1ปีหลังก.ล.ต.ไฟเขียว
นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) เปิดเผยในงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 บริษัท ปตท . จำกัด (มหาชน)วันนี้ (3 ก.ค.)ว่าผลการดำเนินงานปตท.ในปี 2563 คาดว่าจะกำไรสุทธิต่ำกว่าปี2562ที่มีกำไรสุทธิ 92,951 ล้านบาท หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และสงครามราคาน้ำมัน แต่ยืนยันว่าจะยังมีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน
ในปี 2563 ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลดลงต่ำ 21-22 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในช่วงเดือนเม.ย. 2563 มาจากการสงครามราคาน้ำมันและผลกระทบจากโควิด-19 แต่ปัจจุบันนี้ราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 40-42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลแล้ว โดยอมรับว่าการระบาดโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ แต่มั่นใจว่าปีนี้ปตท.มีกำไรแน่นอน ส่วนเงินปันผลจะจ่ายในอัตรา 50%หรือ60% ของกำไรสุทธิยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอการพิจารณา โดยปี2562 ปตท.มีการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 2 บาทหรือคิดเป็น 63%ของกำไรสุทธิ
นายไกรฤทธิ์ กล่าวว่า จากความผันผวนทางเศรษฐกิจ ดังนั้นคณะกรรมการปตท.ได้มอบนโยบายหลักให้ฝ่ายบริหาร คือการรักษาสภาพคล่องและอันดับเครดิตไม่ให้ลดลงเพื่อไม่ให้ต้นทุนทางสูงขึ้น ดังนั้นการจ่ายปันผลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาด้านการลงทุน ซึ่งได้มีการการลงทุนบางโครงการออกไปก่อน ส่วนโครงการที่มีความจำเป็นก็ยังคงเดินหน้าต่อไป มั่นใจว่าจะไม่กระทบเครดิตเรทติ้ง และสภาพคล่องเพียงพอ
“ ธุรกิจของปตท.แตกต่างจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ดังนั้นการจ่ายเงินปันผลของปตท.ต้องพิจารณาเรื่องการลงทุน การรักษาสภาพคล่อง และเครดิต ต่างจากแบงก์พาณิชย์หากมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จะกระทบต่อเงินกองทุนซึ่งจะมีผลต่อความสามารถในการปล่อยสินเชื่อ ซึ่งรัฐต้องการให้แบงก์มีความสามารถในการปล่อยสินเชื่อเพื่อไม่กระทบต่อภาคธุรกิจได้ จึงทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ขอให้แบงก์พาณิชย์งดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในงวดปี 63 ส่วนปตท.จะมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลหรือไม่ต้องรอดูผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ก่อน”
ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัทปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น คงต้องพิจารณาภาวะตลาดด้วย หากภาวะตลาดหุ้นดี ได้ราคาหุ้นดีก็พร้อมที่จะเสนอขาย เพราะการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) เท่ากับเป็นการลดสัดส่วนการเป็นเจ้าของ โดยปตท.ยังมีเวลาในการขายหุ้นIPO ราว 1ปีภายหลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแล้ว
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.ทบทวนแผนงานเพื่อรองรับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคโควิด -19 โดยปตท.ได้ดำเนินการปรับลดเงินลงทุนปี 2563 ราว 1.5 หมื่น และตัดลดค่าใช้ดำเนินงาน 5 พันล้านบาท ส่วนโครงการลงทุนระยะยาวที่จำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปตท.ยังดำเนินการต่อเนื่องโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งล่าสุด ปตท.ก็ได้เสนอตัวเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา หลังจากได้ร่วมทุนกับพันธมิตรลงทุนโครงการท่าเทียบเรือมาบตาพุด เฟส 3 และโครงการท่าเทียบเรือแหลมฉบัง เฟส 3
รวมทั้ง ปตท.เตรียมให้พนักงาน กลับเข้ามาทำงานทั้งหมดภายในเดือนนี้ หลังจากทำให้ทำงานที่บ้านตามนโยบายรัฐหยุดเชื้อเพื่อชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ด้านนายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ ปตท. กล่าวว่า ปตท.ได้ปรับโมเดลธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เพื่อรองรับกับการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติที่ภาครัฐได้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และบริษัทเอกชน จากเดิมที่ปตท.เคยได้รับอนุญาต Shipper เพียงรายเดียว โดยปตท.ยังคงมีหน้าที่ดูแลการจัดหา LNG เพื่อรองรับความมั่นคงของภาคพลังงาน ขณะเดียวกันก็ต้องจัดหาเพื่อรองรับตลาดในเชิงพาณิชย์ที่เริ่มมีรายอื่นเข้ามาแข่งขัน
โดยปตท.จะพยายามรักษาสัญญาซื้อขายก๊าซฯระยะยาวกับกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ โดยล่าสุดเมื่อปลายมิ.ย.ที่ผ่านมา ปตท.เพิ่งลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซฯกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ระยะยาว 10ปี คิดเป็นมูลค่า 3.4 แสนล้านบาท พร้อมทั้งเจาะตลาดภาคอุตสาหกรรมให้โรงงานหันมาใช้ก๊าซฯแทนเชื้อเพลิงชนิดอื่น รวมทั้งหาตลาดCLMV เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางตลาดLNG (LNG HUB)