LPN แจงไตรมาส 1/63 กำไรกว่า 216 ล้านบาท ลดลง 38.03% รายได้รวม 1,820 ล้านบาท ยอดขายรวม 2,620 ล้านบาท ตุน Backlog 3,800 ล้านบาท
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN แจ้งผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยประจำไตรมาส 1/2563 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 216.88 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 38.03 ที่มีกำไรสุทธิ 350 ล้านบาท เนื่องมาจากยอดรายได้จากการขายลดลงร้อยละ 40.08 แต่บริษัทยังคงรักษาระดับกำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30
โดยมีรายได้รวม 1,820.90 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 34.74 จากช่วงเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้รวม 2,790.24 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,493.92 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจให้เช่าและบริการ 56.95 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการ 270.03 ล้านบาท
สำหรับรายได้จากธุรกิจให้เช่า และบริการจำนวน 56.95 ล้านบาทนั้นเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 42.17 เป็นการขยายงานเช่าตามนโยบายของบริษัทอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2561 ได้แก่ โครงการ ลุมพินี ทาวน์ชิป รังสิต -คลอง 1 เฟส 3 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 และในปี 2563 จะมีโครงการนำร่องอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินี พาร์ค พหล 32 และลุมพินี เพลส พระราม 3-ริเวอร์ไรน์ ที่บริษัทจะนำมาปล่อยเช่าเช่นกัน อีกทั้งบริษัทได้มีการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้แก่บริษัท ทำให้มีอัตราส่วนหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และหนี้สินรวมต่อส่วนของผู้ถือหุ้นตามนโยบายบริษัท คือไม่เกิน 1:1 ในขณะเดียวกัน มีการบริหารต้นทุนทางการเงินให้ต่ำลง เป็นผลจากเครดิตเรตติ้งซึ่งสะท้อนถึงฐานะการเงินที่มีความมั่นคงของบริษัทอีกด้วย
ไตรมาส 1 ปี 2563 บริษัทและบริษัทย่อยมียอดขายรวม 2,620 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากอาคารชุดพักอาศัย 1,870 ล้านบาท และบ้านพักอาศัย จำนวน 750 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1 มี Backlog จำนวน 3,800 ล้านบาท กำหนดรับรู้รายได้ในปีนี้ 3,000 ล้านบาท อีก 800 ล้านบาท รับรู้ในปี 2564
สำหรับโครงการที่สร้างแล้วเสร็จไตรมาส 1 ปี 2563 ได้แก่ 1.โครงการที่แล้วเสร็จพร้อมส่งมอบไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 2 โครงการ รวมมูลค่าโครงการประมาณ 1,860 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการลุมพินี เพลส พระราม 3-ริเวอร์ไรน์ มูลค่าโครงการประมาณ 1,700 ล้านบาท 2.บ้านพักอาศัยของบริษัทย่อย 1 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินี ทาวน์ วิลล์ รังสิตคลอง ๒ (เฟส 2) มูลค่าโครงการประมาณ 160 ล้านบาท
2.โครงการเปิดตัวใหม่ยอดขาย และ Backlog ณ 31 มีนาคม 2563 บริษัทมียอดขายในไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 2,620 ล้านบาท แบ่งเป็น 2.1 ร้อยละ 52.92 มาจากสต๊อกสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ก่อนปี 2563 จำนวน 1,386 ล้านบาท 2.2 ร้อยละ 40.30 เป็นโครงการที่เปิดตัวในไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 4 โครงการ คิดเป็นยอดขายรวมได้ 1,056 ล้านบาท สำหรับโครงการเปิดใหม่ทั้งหมด 4 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 4,600 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการ “ลุมพินี เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์” มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท มียอดขายรวมประมาณ 750 ล้านบาท และโครงการบ้านพักอาศัย 3 โครงการ ได้แก่ 1.บ้านลุมพินีทาวน์เพลส สุขุมวิท-ศรีนครินทร์ 2.บ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ ลาดกระบัง -สุวรรณภูมิ (เฟส 1) 3.บ้านลุมพินีทาวน์ วิลล์ พหลโยธิน -สะพานใหม่ (เฟส 1) ยอดขายรวม 260 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,800 ล้านบาท
2.3 ร้อยละ 3.88 เป็นโครงการที่สร้างแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2563 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ ลุมพินี เพลส พระราม 3-ริเวอร์ไรน์ และบ้านลุมพินี ทาวน์ วิลล์ รังสิต คลอง 2 (เฟส 2) คิดเป็นยอดขายรวม 102 ล้านบาท และ 2.4 ร้อยละ 2.91 เป็นโครงการระหว่างก่อสร้าง คิดเป็นยอดขายรวมได้ 76 ล้านบาท
