รฟม.-BEM แจ้งขยายเวลาให้บริการรถไฟฟ้า MRT สีน้ำเงินและม่วงตามปกติ ถึง 24.00 น. ส่วนอาคารและลานจอดแล้วจรทุกแห่ง ใช้ได้ถึง 01.00 น. หลัง ศบค.ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ตั้งแต่ 15 มิ.ย. 63 เป็นต้นไป
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า จากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกเวลาการห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) และผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 นั้น
รฟม. และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า MRT จึงได้ปรับเวลาการให้บริการรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล (MRT สายสีน้ำเงิน) และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) เป็นเวลาปกติ โดยจะให้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ตั้งแต่เวลา 05.30-24.00 น. และให้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.
ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถตรวจสอบตารางการเดินรถและเวลารถไฟฟ้าขบวนสุดท้ายได้จากประกาศภายในสถานี หรือเฟซบุ๊ก MRT Bangkok Metro โมบายแอปพลิเคชัน Bangkok MRT เว็บไซต์ www.bemplc.co.th ศูนย์บริการข้อมูล โทร. 0-2624-5200
สำหรับอาคารและลานจอดแล้วจรของ รฟม.จะเปิดให้บริการเวลา 05.00-01.00 น. โดยปัจจุบัน รฟม.มีที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน จำนวน 13 แห่ง ได้แก่ อาคารจอดแล้วจรที่สถานีลาดพร้าว สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย สถานีหลักสอง (2 อาคาร) และลานจอดแล้วจรที่สถานีรัชดาภิเษก สถานีห้วยขวาง สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย (2 ลาน) สถานีพระราม 9 สถานีเพชรบุรี สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (2 ลาน) และสถานีสามย่าน ที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ อาคารจอดแล้วจรที่สถานีคลองบางไผ่ สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ และสถานีแยกนนทบุรี 1 รวมถึงที่จอดรถในแนวสายทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ จำนวน 1 แห่ง คือ ลานจอดแล้วจรที่สถานีเคหะสมุทรปราการ
ทั้งนี้ การผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 4 นั้น จะส่งผลให้มีจำนวนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น จนใกล้เคียงกับช่วงเวลาปกติ รฟม. และ BEM ใคร่ขอความร่วมมือผู้โดยสารโปรดปฏิบัติตนในการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ (New Normal) ในการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้า ด้วยการสวมใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการใช้บริการ รักษาระยะห่างในการใช้บริการตามมาตรการ Social Distancing ตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางราง รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าใช้บริการ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ในจุดให้บริการในสถานี เพื่อความปลอดภัยทางสุขอนามัยของทุกคน