BEM เปิดตัวโครงการ “Healthy Journey with BEM” แจกหน้ากากผ้าฟรี 1 ล้านชิ้น! เริ่มวันนี้ รับได้ที่สถานีที่มีประกาศ ส่วนเติมเงิน 500 บาท รับเลยไม่ต้องรอคิว เผยคลายล็อกดาวน์ผู้โดยสารเริ่มเดินทางเพิ่มเป็น 1.6 แสนเที่ยวคน/วัน
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยืนยันถึงความพร้อมในการให้บริการรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง โดยตระหนักถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการและพนักงานเป็นลำดับแรก MRT จึงยังคงมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ BEM ได้จัดทำโครงการ “Healthy Journey BEM” เพื่อแทนความขอบคุณ ห่วงใย และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า โดยแจกหน้ากากผ้า 1 ล้านชิ้นฟรี ให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ส่งเสริมการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมาใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและส่วนรวม โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม 2563 โดยรับได้ที่สถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ทั้ง 53 สถานี และจะแบ่งปันอีกส่วนหนึ่งให้แก่ชุมชนกว่า 21 ชุมชน และสถานศึกษารายรอบเส้นทางรถไฟฟ้าและทางด่วนกว่า 60 แห่ง สำนักงาน เขต กทม.16 เขต เทศบาลนนทบุรี เป็นต้น
สำหรับการแจกหน้ากากผ้าให้แก่ผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม จะแบ่งออกเป็น 3 ครั้ง แต่ละครั้งจะสลับช่วงเวลากันและวนไปจนครบทั้ง 53 สถานี เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับหน้ากากอย่างทั่วถึงมากที่สุด ผู้โดยสารไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ พียงแต่ขอความร่วมมือรับหน้ากากผ้า 1 ท่าน/1 ชิ้น ตลอดรายการ โดยสามารถติดตามรายละเอียดกำหนดการแจกหนำกากผ้าได้จากสื่อมวลชนและช่องทางประชาส้มพันธ์ต่างๆ ของบริษัท
โดยจะแบ่งการแจกออกเป็น 3 ครั้ง ซึ่งจะมีการกำหนดช่วงเวลา ในการแจก เพื่อให้สามารถกระจายหน้ากากผ้าให้ผู้โดยสารไอย่างทั่วถึง โดยครั้งที่ 1 เดือน มิ.ย. เริ่มตั้งแต่วันที่ 1-7 มิ.ย. 63 เวลา 06.30-09.00 น. ซึ่งจะมีประกาศสถานีที่จะมีการแจก ในวันและเวลาใด ส่วนเดือน ก.ค.และ ส.ค.นั้นจะมีการประชาสัมพันธ์ในลำดับต่อไป
และพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่เติมเงินบัตรโดยสารตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป รับฟรีหน้ากากผ้า 1ชิ้นที่ห้องออกบัตรโดยสารทุกสถานี ตั้งแต่วันที่ 1มิถุนายน 2563 เป็นตันไปจนกว่าของจะหมด
นอกจากนี้ ได้เพิ่มมาตรการดูแลด้านสุขอนามัย เตรียมแอลกอฮอล์เจลทำความสะอาดสำหรับผู้โดยสารกว่า 800 จุด มีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในขบวนรถ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า เย็น และเพิ่มรอบทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสร่วมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครึ่งชั่วโมง และดำเนินการมาตรการ รักษาระยะห่าง (Social Distancing) บริเวณสถานีและในรถไฟฟ้า โดยเพิ่มขบวนรถเสริมเป็น 49 ขบวนและเพิ่มความถี่ในการเดินรถในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าเย็น เพื่อลดความแออัดภายในขบวนรถ
นายสมบัติกล่าวว่า ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้าได้รับผลกระทบจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศเคอร์ฟิวและมาตรการคุมเข้มโควิด ซึ่งคนส่วนใหญ่จะทำงานที่บ้านลดการเดินทาง โดยในเดือน เม.ย.มีผลกระทบหนักสุด โดยในส่วนของทางด่วน มีรถวิ่ง 5-6 แสนเที่ยว/วัน รถไฟฟ้ามีผู้โดยสารไม่ถึง 1 แสนเที่ยวคน/ วัน โดยเพิ่มกลับมาเพิ่มขึ้นหลังการผ่อนปรนมาตรการ โดยผู้ใช้ทางด่วนมีประมาณ 9 แสนเที่ยว/วัน หรือกลับมาในระดับ 80-85% ส่วนรถไฟฟ้าผู้โดยสารเฉลี่ย 1.6 แสนเที่ยวคน/วัน จากปกติ มี 4 แสนเที่ยวคน/วัน ซึ่งยังมีมาตรการเว้นระยะห่างอีกด้วย โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 3 การเดินทางภาพรวมจะเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมสนับสนุนภาครัฐอย่างเต็มที่ในการดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้โรค COVID-19 กลับมาแพร่ระบาดซ้ำ และขอให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้าปฏิบัติตนด้วยวิธีการง่ายๆ 1. สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยขณะใช้บริการ 2. เว้นระยะห่างทางสังคมระหว่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 3. หมั่นล้างมือให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์เจลที่มีให้บริการทั่วทุกพื้นที่ในสถานี