“พาณิชย์” เผยอาเซียนเตรียมบังคับใช้ข้อตกลงเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติสำหรับการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าฉบับใหม่ ผ่านระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ (ESS) เพื่อขอ Form D ดีเดย์ 1 ก.ย. 63 ระบุจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ ยื่นคำขอได้ที่สำนักงาน รู้ผลภายใน 10 นาที หลังคำขอได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ แนะเตรียมความพร้อมรองรับการใช้งานได้แล้วตั้งแต่บัดนี้
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศสมาชิกอาเซียนจะบังคับใช้ข้อตกลงเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติสำหรับการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Operational Certification Procedure : OCP) ฉบับใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกและส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าแก่ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการเพิ่มข้อบทที่รองรับการใช้ระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Signature and Seal (ESS) สำหรับการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D
ระบบ ESS เป็นระบบการให้บริการที่ลดขั้นตอนและระยะเวลาที่ผู้ประกอบการต้องใช้ในการติดต่อขอรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin : C/O) จากกรมฯ โดยผู้ประกอบการสามารถยื่นคำขอพร้อมแนบเอกสารประกอบการพิจารณาออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักงานของตนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารและอนุมัติคำขอในระบบแล้ว ระบบจะทำการดึงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์ของผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ผู้อนุมัติลงไปในแบบพิมพ์หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าโดยอัตโนมัติแทนการลงลายมือชื่อและตราประทับแบบสด ทั้งนี้ ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบผลการพิจารณาทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ภายใน 10 นาที หลังจากที่คำขอได้รับการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่แล้ว
“เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการให้บริการด้วยระบบ ESS กรมฯ ขอเชิญชวนให้ผู้ประกอบการยื่นคำขอจดทะเบียนเพื่อส่งตัวอย่างลายมือชื่อของกรรมการหรือผู้รับมอบอำนาจและตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามี) ผ่านระบบ Registration Database ของกรมฯ (http://reg-users.dft.go.th) ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เคยจดทะเบียนลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์สำหรับหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าฟอร์มอื่นที่ใช้ระบบ ESS แล้ว ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง” นายกีรติกล่าว
ที่ผ่านมากรมฯ ได้ให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ด้วยระบบการลงลายมือชื่อและตราประทับอิเล็กทรอนิกส์เป็นโครงการนำร่องแล้ว ได้แก่ Form JTEPA (ความตกลงการค้าเสรีไทย-ญี่ปุ่น), Form AJ (ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ญี่ปุ่น), Form FTA (ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย), Form AANZ (ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์), Form AK (ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-เกาหลี), Form AHK (ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง) และจะเริ่มให้บริการด้วยระบบ ESS สำหรับการออก Form D ไปยังประเทศสมาชิกอาเซียน ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป