xs
xsm
sm
md
lg

เงินเฟ้อ พ.ค.ติดลบ 3.44% ต่ำสุด 10 ปี 10 เดือน ชี้เป็นการฝืดทางเทคนิค ไม่น่ากังวล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เงินเฟ้อเดือน พ.ค. 63 ลบ 3.44% ต่ำสุดรอบ 10 ปี 10 เดือน เจอแรงฉุดจากน้ำมัน รัฐช่วยค่าครองชีพทั้งค่าไฟฟ้า น้ำประปา และลดราคาสินค้าจำเป็น เผยเป็นการเข้าสู่ภาวะเงินฝืดทางเทคนิค ไม่ใช่ฝืดจริง เหตุสินค้ายังเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ราคาขยับขึ้นด้วยแต่ไม่เยอะ ถือเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน พ.ค. 2563 ลดลง 3.44% ถือเป็นการลดลงต่ำสุดในรอบ 10 ปี 10 เดือนนับจาก ก.ค. 2552 ที่ลดลง 4.4% มีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะมีการปรับขึ้นหลายครั้ง แต่ก็ยังต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และยังมีมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งการลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา และลดราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพหลายรายการ รวมทั้งยังมีการลดลงของราคาผักสดที่ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่สินค้าและบริการอื่นๆ ยังปรับเพิ่มขึ้น แต่เพิ่มขึ้นไม่มาก ไม่สามารถไปลดสัดส่วนในกลุ่มที่ลดลงแรงได้ จึงเป็นปัจจัยทำให้เงินเฟ้อเดือน พ.ค. 2563 ลดลง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือนของปี 2563 (ม.ค.-พ.ค.) ลดลง 1.04%

“ถ้าดูกันตามหลักวิชาการ ถือว่าตอนนี้เกิดเงินฝืด แต่เป็นแค่ทางเทคนิค เพราะเงินเฟ้อติดลบติดต่อกัน 3 เดือน โดย มี.ค.ลบ 0.54% เม.ย.ลบ 2.99% และ พ.ค.ลบ 3.44% แต่ไม่ใช่การฝืดจริง จึงไม่น่ากังวล โดยหากดูลึกลงไป ราคาสินค้าหลายตัว ทั้งอาหาร สินค้าอุปโภคบริโภคไม่ได้ลดลง เป็นบวกด้วยซ้ำ แต่บวกไม่เยอะ เรียกว่าหมูเห็ดเป็ดไก่เพิ่มหมด แต่ไม่สามารถไปลดในสัดส่วนที่ลดลงมากของน้ำมัน ค่าไฟฟ้า น้ำประปา และมาตรการลดค่าครองชีพของกระทรวงพาณิชย์ที่ทำร่วมกับผู้ประกอบการลงได้ มันก็เลยดูเป็นเงินฝืด ซึ่งจริงๆ ประชาชนไม่ต้องกังวลว่าเงินฝืดแล้วจะทำให้เศรษฐกิจแย่ มันไม่ได้ฝืดจริง” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว

ทั้งนี้ หากดูเงินเฟ้อพื้นฐานที่หักสินค้ากลุ่มอาหารสดและพลังงานออก ยังคงเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสินค้ายังมีการเคลื่อนไหวทางด้านราคา ส่วนยอดรวม 5 เดือน ลดลง 0.40%

น.ส.พิมพ์ชนกกล่าวว่า เงินเฟ้อเดือน พ.ค. 2563 น่าจะเป็นช่วงที่ต่ำที่สุดของปีนี้แล้ว เนื่องจากปัจจุบันกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นจากการคลายล็อกดาวน์ ทำให้มีการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันเริ่มฟื้นตัวและปรับตัวสูงขึ้น ส่วนค่าไฟฟ้า น้ำประปา ก็สิ้นสุดมาตรการลงแล้ว เงินเฟ้อน่าจะเริ่มขยับเพิ่มขึ้น แต่ยังคงประเมินว่าทั้งปีเงินเฟ้อน่าจะอยู่ในแดนลบ คงไม่กลับมาเป็นบวก เพราะฐานน้ำมันปีก่อนยังสูง ส่วนตัวเลขที่ชัดเจนขอรอดูเงินเฟ้อเดือน มิ.ย. 2563 ก่อนถึงจะประเมินอีกครั้ง แต่ตัวเลขปัจจุบันประเมินเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ ติดลบ 1.0% ถึงลบ 0.2% มีค่ากลางอยู่ที่ 0.6%

ปัจจัยที่จะทำให้เงินเฟ้อกลับมาขยายตัวมาจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาขับเคลื่อนได้ คนเริ่มกลับมาใช้จ่าย และยังมีการทยอยเปิดการท่องเที่ยวข้ามจังหวัด รัฐบาลกำลังมีมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อทดแทนรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจในประเทศหมุนเวียน ซึ่งมีผลต่อราคาสินค้า ขณะที่ภัยแล้ง แม้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ก็ต้องติดตามราคาสินค้าเกษตรบางตัวอย่างใกล้ชิดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น