บี.กริม เพาเวอร์เสนอรัฐปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรรมชาติ สะท้อนราคาตลาดเพื่อให้ค่าไฟฟ้าลดลง และยกเลิกขายก๊าซฯ ให้โรงไฟฟ้าเอสพีพีแพงกว่าไอพีพี ฟุ้งมีผู้เสนอขายแอลเอ็นจีให้บริษัทเพียบ หลังได้รับใบอนุญาตนำเข้ารายที่ 5
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ซึ่งเป็นทั้งผู้ผลิตไฟฟ้าเอสพีพี และผู้รับใบอนุญาตนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจี เปิดเผยว่า จากราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในตลาดจรอยู่ระดับ 2 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ต่ำกว่าราคาก๊าซฯ ในไทยที่เฉลี่ยทุกแหล่งรวมประมาณ 9 เหรียญต่อล้านบีทียู ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าของไทยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้น ภาครัฐควรพิจารณาปรับสูตรโครงสร้างราคาก๊าซฯ ทั้งระบบใหม่เพื่อให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าของประเทศลดลง อุตสาหกรรมแข่งขันได้ และประชาชนก็ได้ประโยชน์
ทั้งนี้ โครงสร้างราคาก๊าซฯ ที่ควรมีการปรับปรุง คือการกำหนดราคาก๊าซฯ ในอ่าวไทยไม่ควรอิงราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6 เดือน เนื่องจากราคาก๊าซฯ ไม่สะท้อนราคาปัจจุบัน ก็ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสับสนในความไม่สัมพันธ์ของต้นทุนที่ขึ้น-ลง และราคาก๊าซฯ ที่ขายให้โรงไฟฟ้ารายเล็ก (เอสพีพี) ควรยกเลิกราคาที่ขายก๊าซฯ แพงกว่าโรงไฟฟ้าเอกชนอิสระขนาดใหญ่ (ไอพีพี) ถึง 9 บาทต่อล้านบีทียู
"ต้นทุนค่าไฟฟ้าร้อยละ 70 มาจากค่าเชื้อเพลิง หากค่าก๊าซฯ ลดลงได้ ค่าไฟฟ้าก็จะลดลง และเอสพีพีก็ถือว่าเป็นประโยชน์ผลิตทั้งไฟฟ้าและไอน้ำป้อนโรงงานอุตสาหกรรม ขณะนี้เวียดนามค่าไฟฟ้าเพียง 2.70 บาท/หน่วย แต่ไทยอยู่ที่ประมาณ 3.50 บาท/หน่วย"
นางปรียนาถกล่าวว่า ตามที่บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติจาก กกพ.เป็นรายที่ 5 นั้น บริษัทมีแผนนำเข้าแอลเอ็นจีในปี 2565 ปริมาณ 6.5 แสนตันเพื่อป้อนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมที่ได้รับการต่ออายุสัญญา หรือ SPP Replacement จำนวน 5 โครงการ กำลังผลิตรวม 700 เมกะวัตต์ ขณะนี้ได้มีผู้ติดต่อเพื่อจำหน่ายแอลเอ็นจีให้เป็นจำนวนมากทั้งเทรดเดอร์และผู้ผลิตก๊าซฯ โดยเสนอในราคาที่ต่ำ และมีสัญญาซื้อระยะยาว 10-15 ปี เมื่อบริษัทซื้อก๊าซราคาถูกก็จะนำมาลดค่าไฟฟ้าให้ลูกค้าต่อไป