บี.กริม เพาเวอร์มั่นใจ กกพ.อนุมัติให้เป็นผู้นำเข้า LNG รายใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ กกพ.อนุมัติใบอนุญาตนำเข้าก๊าซฯ กับกัลฟ์และหินกอง เพาเวอร์
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าจะได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติจากที่ประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในวันศุกร์ที่ 22 พ.ค.นี้ หลังจากที่ประชุม กกพ.เมื่อวานนี้ (20 พ.ค.) แนะนำให้บริษัทลดปริมาณการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) โดยให้นำเข้าเฉพาะใช้ในโรงไฟฟ้าในส่วนกำลังผลิตส่วนเกินจากสัญญาขายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) สำหรับ 5 โรงไฟฟ้าผู้ผลิตเอกชนรายเล็กประเภททดแทน (SPP Replacement)
สาเหตุที่มั่นใจเนื่องจากบริษัทปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของสำนักงาน กกพ.ทั้งหมด หากบริษัทนำเข้า LNG ราคาต่ำเข้ามาก็จะส่งต่อผลประโยชน์ไปยังลูกค้าอุตสาหกรรมของบริษัทได้ค่าไฟฟ้าต่ำลง ก็จะทำให้สินค้าของไทยในการส่งออกสามารถแข่งขันได้ เป็นผลดีต่อประเทศ
“โรงไฟฟ้าเอสพีพีทดแทนของ บี.กริมมี 5 โรง โรงละ 140 เมกะวัตต์ พร้อมจะลดปริมาณนำเข้าในส่วนที่ขายแก่ กฟผ.โรงละ 30 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัททำตามนโยบายทุกอย่าง ก็มั่นใจจะได้รับอนุมัติ และการที่ไทยเป็นผู้ส่งออก หากลูกค้าได้ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ถูกก็จะสร้างประโยชน์แก่ประเทศ” นางปรียนาถกล่าว
ด้านนายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ธุรกิจนำเข้า LNG เป็นไปตามนโยบายแข่งขันเสรี ผู้นำเข้ารายใหม่ก็จะเป็นทั้งรูปแบบนำเข้ามาใช้เอง หรืออาจจะขายให้ ปตท.ก็ได้ โดยภาพรวมแล้ว ปตท.ก็ต้องปรับตัวพร้อมที่จะแข่งขัน โดยในเรื่องราคาก๊าซตลาดรวม (POOL) ที่มีราคาสูงกว่า LNG ตลาดจรในขณะนี้ที่อยู่ 2-3 ดอลลาร์สหรัฐ ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามภาวะตลาดโลกในช่วงนี้ ส่วนตลาด POOL เป็นราคาก๊าซฯ จากแหล่งอ่าวไทย พม่า และการนำเข้าแอลเอ็นจีระยะยาวที่เกิดขึ้นจากนโยบายที่สร้างความมั่นคงระยะยาวของประเทศ ซึ่งสำนักงาน กกพ.ก็ได้ระบุชัดว่าสัญญาเดิมของโรงไฟฟ้าที่มีไว้กับ ปตท.จะต้องไม่เปลี่ยนแปลง
“โรงไฟฟ้าไอพีพี เช่น หินกอง เป็นสัญญาระยะยาว โดยหากเอกชนจะนำเข้าเองภาครัฐก็คงต้องดูในแง่ความมั่นคงในอนาคต อย่างไรก็ตาม ปตท.ก็ปรับตัวพร้อมแข่งขัน ซึ่งปีนี้ก็เตรียมพร้อมนำเข้า LNG ราคาตลาดจร 11 ลำเรือ แต่จะนำเข้ามากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด” นายวุฒิกรกล่าว
เมื่อเร็วๆ นี้ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่า ที่ประชุม กกพ.ได้อนุมัติให้ใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) ในปริมาณ 3 แสนตัน/ปี แก่กัลฟ์ฯ เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้า SPP ของกลุ่มกัลฟ์จำนวน 19 โครงการ และบริษัท หินกองเพาเวอร์โฮลดิ้ง จำกัด (HKH) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทถือหุ้น 49% และ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) ถือหุ้น 51% ได้รับอนุมัติใบอนุญาต เช่นเดียวกัน HKH จะนำเข้า LNG 1.4 ล้านตัน/ปี เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าหินกอง กำลังการผลิต 1,400 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2567 และปี 2568