“พาณิชย์” จ่อเปิดตัวบิ๊กดาต้าข้อมูลเศรษฐกิจการค้าเชิงลึก ช่วยผู้ประกอบการ ประชาชนวางแผนทำธุรกิจ ส.ค.นี้ หลังนำร่องปักหมุดร้านโชวห่วย ช่วยเพิ่มทางเลือกซื้อสินค้าใกล้บ้าน ทำระบบเชื่อมโยงข้อมูลผลไม้ 9 ชนิดแก้ปัญหาล้นตลาด เตรียมลุยต่อพัฒนาระบบติดตามข้อมูลสินค้าเกษตรสำคัญ ข้อมูลจังหวัดและฐานราก และพัฒนาระบบบริการข้อมูลการค้าเชิงลึกให้ดียิ่งขึ้น
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะ Mr. Big Data ของกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะเปิดตัวระบบบริการข้อมูลเศรษฐกิจการค้าเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการ ประชาชน ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อวางแผนการดำเนินธุรกิจ โดยข้อมูลจะเป็นข้อมูลเชิงลึก ข้อมูลโอกาสในการขยายการค้า การพัฒนาธุรกิจสินค้าหรือบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เป็นข้อมูลที่มีการวิเคราะห์แล้ว มีที่มาจากบทวิเคราะห์ บทความ เอกสารศึกษา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการค้า ทั้งรายประเทศ รายสินค้า และแนวโน้มที่น่าสนใจ แต่ไม่ใช่ตัวเลขดิบ หรือข้อมูลดิบ ซึ่งจะเปิดตัวได้ในช่วงเดือน ส.ค. 2563 เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 100 ปีกระทรวงพาณิชย์ และเป็นการเดินหน้านำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับการบริการประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ด้วยการใช้ประโยชน์จากบิ๊กดาต้าเพื่อขับเคลื่อนการค้ายุคใหม่
ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ได้นำร่องการใช้บิ๊กดาต้าจัดทำระบบปักหมุดบริการข้อมูลค้นหาร้านโชวห่วยใกล้บ้าน เพื่อให้ประชาชนทราบข้อมูลร้านค้า เพื่อสั่งซื้อสินค้าหรือเลือกใช้ร้านค้าที่มีบริการส่งถึงบ้านในช่วงกักตัวอยู่บ้านรับมือกับการระบาดของโควิด-19 และจัดทำระบบข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงขยายตลาดผลไม้เชิงรุกรองรับช่วงผลไม้ออกสู่ตลาด นำร่องผลไม้สำคัญ 9 ชนิด ได้แก่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย ลองกอง ลิ้นจี่ สับปะรด มะพร้าวโรงงาน และมะม่วงเกรดส่งออก เพื่อเป็นเครื่องมือให้พาณิชย์จังหวัดเชื่อมโยงตลาดผลไม้ เพื่อแก้ปัญหาผลไม้ล้นตลาด โดยมีข้อมูลการผลิต ความต้องการ ซึ่งจะช่วยวางแผนกระจายผลไม้ได้ถูกต้อง
น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า สนค.มีแผนพัฒนาข้อมูลบิ๊กดาต้าต่อเนื่อง โดยจะต่อยอดระบบติดตามสินค้าเกษตรพื้นฐาน คือ ข้าว ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และทุเรียน โดยส่วนที่ทำเสร็จเมื่อปี 2562 เป็นการทำฐานข้อมูลการค้าสินค้าเกษตรพื้นฐาน ทั้งด้านการผลิต ราคา การนำเข้าส่งออก เพื่อให้ผู้บริหารสามารถกำหนดนโยบายที่ทันต่อเหตุการณ์และคาดการณ์ได้ และปี 2563 จะพัฒนาข้อมูลให้มาจากแหล่งต่างๆ อย่างสมบูรณ์มากขึ้น โดยในส่วนของข้อมูลสินค้าเกษตรด้านการส่งออก ทั้งปริมาณ ตลาดที่ส่งออก และตลาดที่มีศักยภาพ จะเปิดให้ประชาชนเข้าใช้ได้ในช่วงกลางปี 2563
นอกจากนี้ จะเร่งพัฒนาระบบข้อมูลจังหวัดและฐานราก โดยการเชื่อมโยงข้อมูลจากพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานอื่นในระดับจังหวัด เช่น เกษตร อุตสาหกรรม สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมรายจังหวัด เข้ามาอย่างเป็นเอกภาพและเป็นระบบมากขึ้น มีเป้าหมายคือ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าในระดับจังหวัดและระดับภูมิภาค วิเคราะห์ศักยภาพธุรกิจรายจังหวัด สินค้าเกษตรที่มีศักยภาพเพาะปลูกในเขตนั้น พร้อมทั้งการขยายโอกาสการส่งออกของท้องถิ่นที่จะช่วยส่งเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากได้
สำหรับระบบบริการข้อมูลการค้าเชิงลึก จะพัฒนาข้อมูลให้มีการวิเคราะห์ได้เชิงลึกมากขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนนำข้อมูลไปใช้ในการวางแผนธุรกิจ การทำการค้า โดยคาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าใช้ได้ในช่วงประมาณเดือน ต.ค. 2563