ดับฝันค่ายรถยนต์กระทรวงอุตสาหกรรมถกไม่รับข้อเสนอให้รัฐสนับสนุนออกมาตรการนำรถยนต์เก่ามาแลกใหม่เพื่อช่วยกระตุ้นการผลิตหลังได้รับผลกระทบโควิด-19 หวั่นจะกระทบต่อเนื่องให้มาตรการส่งเสริมการใช้และการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่วางไว้ได้ สมอ.ลั่นเดินหน้าโครงการศูนย์ทดสอบรถยนต์ตามแผนไม่หวั่นโควิด-19 รองรับไทยฐานการผลิตอีวีอนาคต
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้กระทรวงฯ ได้มีการพิจารณาข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือผลกระทบจากโควิด-19 โดยออกมาตรการนำรถเก่าอายุ 20 ปีมาแลกรถใหม่แล้วรัฐสนับสนุนจ่ายส่วนต่างราคาจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นมีแนวโน้มว่าจะไม่สามารถดำเนินการได้เพราะอาจกระทบต่อมาตรการส่งเสริมการใช้และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ที่ไทยกำลังขับเคลื่อน ที่ล่าสุดรัฐบาลได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
"หากทำมาตรการตามที่ผู้ผลิตรถยนต์เสนอจะทำให้รถยนต์ที่เป็นเครื่องยนต์ปกติ รวมถึงกลุ่มไฮบริด หรือปลักอิน ไฮบริด ขายดี ซึ่งจะไปกระทบต่อรถอีวีที่รัฐบาลกำลังสนับสนุนได้ ดังนั้นระหว่างนี้กระทรวงฯ จึงอยู่ระหว่างหารือกับภาคเอกชนถึงมาตรการที่เหมาะสม และคาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้ รวมถึงจะต้องหารือกับกระทรวงการคลังด้วย" แหล่งข่าวกล่าว
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ ครั้งที่ 1 เมื่อเร็วๆ นี้ซึ่งตนทำหน้าที่ประธานได้เร่งขับเคลื่อนมาตรการส่งเสริมการใช้และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการติดตามความคืบหน้าโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ จ.ฉะเชิงเทรา การพัฒนาบุคลากรเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ซึ่งเป็นการส่งเสริมและสร้างความตระหนักด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า โครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ 1,234 ไร่ วงเงิน 3,583 ล้านบาท ว่า หลังการก่อสร้างเฟสแรก 800 ล้านบาทซึ่งเป็นการทดสอบยางล้อแล้วเสร็จ ขณะนี้ยังคงเดินหน้าโครงการเฟสที่ 2 วงเงิน 800 ล้านบาทต่อเนื่อง แม้เกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ก็ตาม โดยได้ตั้งเป้าให้สนามทดสอบและเครื่องมือเพื่อทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วนแล้วเสร็จในปีนี้
นอกจากนี้ แผนปี 2564 จะก่อสร้างอาคารห้องปฏิบัติการทดสอบแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์อีวี การทดสอบรถยนต์ตามมาตรฐานยูโร 5 และยูโร 6 วงเงิน 400 ล้านบาท และปี 2565 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างสนามทดสอบสมรรถนะและความเร็วเป็นสนามใหญ่ และอาคารที่ทดสอบที่เกี่ยวข้องที่เหลือทั้งหมด วงเงิน 1,200 ล้านบาท และวงเงินที่เหลือใช้สำหรับค่าบุคลากรต่างประเทศ การดำเนินการต่างๆ และแผนก่อสร้างยังปกติ และจะเสร็จ 100% ปี 2565 ซึ่งทุกอย่างยังคงเดินไปตามแผนที่วางไว้