นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ได้ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคการเกษตรที่กำลังประสบปัญหาด้านการส่งออกและการลดลงของนักท่องเที่ยวที่ชอบบริโภคผลไม้ไทย บิ๊กซีไม่หยุดนิ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและอยู่เคียงข้างเกษตรกรไทย ล่าสุดได้จัดงาน “เทศกาลผลไม้ไทย ประจำปี 2563” เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนการบริโภคผลไม้ไทยภายในประเทศซึ่งจะเป็นส่วนช่วยเติมเต็มให้ลูกค้าได้มีโอกาสอุดหนุนสินค้าส่งตรงจากสวนเกษตรกรไทย ภายใต้นโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการช่วยเหลือเกษตรกร ตลอดจนเพื่อตอกย้ำปณิธานความเป็น "ห้างคนไทย หัวใจคือลูกค้า" ที่อยู่เคียงข้างเกษตรกรไทย
“ในปีนี้บิ๊กซีตั้งเป้าการรับซื้อสินค้าผลไม้ตามฤดูกาลเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 60% หรือประมาณ 3,000 ตัน จากยอดรับซื้อ 1,520 ตันในปีที่ผ่านมา โดยรับซื้อตรงผลไม้จากภาคตะวันออก มีผลไม้ชูโรง เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเทพนิมิต บ.เทพนิมิต ต.เทพนิมิต อ.เขาสมิง จ.ตราด ซึ่งเป็นการร่วมมือมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 6 ปี จากการช่วยเหลือและรับซื้อตรงถึงพื้นที่ทำให้ชาวสวนได้มีความมั่นใจในการดูแลผลไม้และใส่ใจในการเพาะปลูก ที่สำคัญคือการสนับสนุนด้านกิจกรรมทั้งด้านธุรกิจ ด้านงานภาครัฐ รวมไปถึงการจัดฝึกอบรมและเยี่ยมชมสวน เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับผลไม้ที่มีคุณภาพและรสชาติที่ดีที่สุด สด สะอาด ปลอดภัย และราคาประหยัด จากเกษตรกรไทยเหมือนลูกค้ามาซื้อเองจากสวน ภายใต้สโลแกน “สดจากสวนที่บิ๊กซี” มาจัดจำหน่ายแก่ลูกค้าในบิ๊กซีทุกสาขาทั่วประเทศ รวมถึงการให้คำแนะนำเรื่องการซื้อผลไม้อย่างถูกต้อง”
“ภายในงานยังได้นำผักและผลไม้ ผลผลิตของเกษตรกรทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการบิ๊กซีผลไม้วงจรคุณภาพ BQL (BIG C Quality Line) ปีที่ผ่านมาถึง 108 รายการ มียอดสั่งทั้งหมด 2,395 ตัน เช่น ส้มสายน้ำผึ้ง เมลอนญี่ปุ่น แก้วมังกร และแตงโม หอมหัวใหญ่ คะน้า กวางตุ้ง เป็นต้น และในปีนี้วางแผนรับซื้อเพิ่มขึ้น 300 ตัน เพื่อสร้างมาตรฐานให้แก่ผลผลิตของไทยและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่เกษตรกร ขณะเดียวกันจะผลักดันให้เกษตรกรคู่ค้าได้รับเครื่องหมายรับรองต่างๆ เช่น มาตรฐาน GMP มาตรฐาน GAP และในอนาคตสินค้าผักผลไม้ที่ผ่านกรรมวิธีทางการผลิตทุกรายการจะต้องแสดงเลข อย.บนบรรจุภัณฑ์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคในการซื้อผักผลไม้ที่บิ๊กซี” นายอัศวินกล่าวเสริม
นอกจากนี้ บิ๊กซียังช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนมะม่วงทุกสายพันธุ์ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศที่ประสบปัญหาส่งออกไม่ได้ และไม่มีที่ระบายสินค้าให้เข้ามาขายในบิ๊กซี อาทิ มะม่วงเกรดส่งออก ทั้งมะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะม่วง R2E2 มะม่วงเขียวเสวย และมะม่วงแก้วขมิ้น จากเกษตรกรจังหวัดกาญจนบุรี เชียงใหม่ ชัยภูมิ นครปฐม เป็นต้น รวมถึงผักสด สะอาด ปลอดภัย ร้าน “กาดกลางเวียง” จากวิสาหกิจชุมชนห้วยสักฟาร์ม จังหวัดเชียงราย ที่นำผักออร์แกนิกมาจัดจำหน่าย เช่น เคล สวีตชาร์ด เรดโอ๊ก กรีนโอ๊ก ตอบโจทย์ลูกค้าที่รักสุขภาพ พร้อมบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกจากกาบกล้วยและใบตอง และยังจัดให้มีกิจกรรมการขายสินค้าฤดูกาลตามสาขาต่างๆ เพื่อกระตุ้นการซื้อขายของผู้บริโภค อีกทั้งเพื่อเพิ่มช่องทางการขายสินค้าให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
บิ๊กซี ขอเชิญชวนคนไทยมาช่วยกันอุดหนุนผลไม้คุณภาพดีจากกลุ่มเกษตรกรไทย โดยเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้-มิถุนายน 2563 ณ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายคนต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from home) รวมถึงผู้ที่ไม่สะดวกออกมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งลูกค้าสามารถใช้บริการสั่งซื้อสินค้าดังกล่าวกับบิ๊กซีได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของบิ๊กซี เว็บไซต์ www.bigc.co.th หรือ Big C Online Application ผ่านทางโทรศัพท์ Call for Shop หรือแอดไลน์ ดูรายละเอียดเบอร์สาขาใกล้บ้านเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/callbigc เลือกซื้อสินค้าแบบ Take away หรือ Drive-Thru มารับสินค้าโดยไม่ต้องลงจากรถ รวมถึงบริการส่งด่วนภายใน 1 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1756
ในขณะเดียวกัน บิ๊กซียังช่วยแบ่งเบาภาระลูกค้าบิ๊กซีที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะวิกฤตการณ์โควิด-19 ให้สามารถผ่อนสินค้า 0% นาน 3 เดือน สินค้าทุกชิ้นและทั้งศูนย์การค้าของบิ๊กซี ตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม 2563 โดยลูกค้าบิ๊กซีสามารถรวมสินค้าของกินของใช้ทุกแผนกให้ครบตั้งแต่ 1,500 ขึ้นไป/ต่อใบเสร็จ เพื่อนำมาผ่อนชำระกับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ดังนี้ บัตรเครดิต SCB บัตรเครดิตกสิกรไทย บัตรเครดิตบิ๊กซี แพลทินัม เพย์เวฟ และบัตรเครดิตธนชาต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่จุดบริการลูกค้าทุกสาขา หรือโทร. 1756
ทั้งนี้ บิ๊กซียังเดินหน้ายึดมั่นและมีความพร้อมในมาตรการอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในบิ๊กซีทุกสาขา ทุกแพลตฟอร์มทั่วประเทศ เพื่อพนักงาน ร้านค้า และลูกค้าได้รับความปลอดภัยอย่างสูงสุด เช็ดทำความสะอาดศูนย์การค้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวัน เน้นย้ำจุดที่มีการสัมผัสทุก 30 นาที ตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิ ทั้งพนักงานของศูนย์ และร้านค้า พนักงานบริการ delivery รวมทั้งการกำหนดระยะห่าง (Social Distancing) ในศูนย์การค้าเพื่อความปลอดภัยของทุกคน และสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า คู่ค้า ให้สามารถมาใช้บริการได้อย่างมั่นใจ