ชาวไร่อ้อยทั่วประเทศรอลุ้นรับเงินค่าอ้อย 10,000 ล้านบาท มิ.ย.นี้ หลัง ก.อุตฯ ถกสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เช็กรายละเอียดอัตราจ่ายเงินต่อตันอ้อย แล้วรอหนังสือตอบกลับเป็นทางการเพื่อเสนอ ครม.รับทราบอีกรอบ ชาวไร่อ้อยหวังได้เต็มอัตราตามกรอบที่เสนอ เกาะติดปริมาณฝน โควิด-19 ใกล้ชิด หวั่นกระทบ
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ได้หารือร่วมกับสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เพื่อสรุปแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ได้เห็นชอบกรอบวงเงินช่วยเหลือฤดูการผลิตปี 2562/ 63 ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยหลังจากได้รับหนังสือตอบกลับสำนักงบฯอย่างเป็นทางการทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะนำความเห็นจากทุกส่วนเสนอ ครม.รับทราบอีกครั้งคาดว่าวงเงินช่วยหลือดังกล่าวจะดำเนินการเบิกจ่ายให้เกษตกรได้เร็วสุด มิ.ย.นี้
“ทาง สอน.ได้ยืนยันตัวเลขอัตราการช่วยเหลือชาวไร่อ้อย 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 6,500 ล้านบาท เพื่อเป็นปัจจัยการผลิตสำหรับชาวไร่อ้อยทุกรายที่จดทะเบียนเป็นชาวไร่อ้อยและทำสัญญาส่งอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลก่อนเปิดหีบ ซึ่งมีจำนวนรวมประมาณเกือบ 200,000 ราย ที่อัตรา 85 บาทต่อตัน และที่เหลือ 3,500 ล้านบาท เป็นเงินช่วยเหลือชาวไร่อ้อยที่ตัดอ้อยสดส่งเข้าโรงงานน้ำตาลทุกตันอ้อย โดยช่วยเหลือเพิ่ม 92 บาทต่อตัน แต่คงจะต้องรอการตอบกลับจากคลังว่าจะเป็นอัตราใดที่เหมาะสม” นายเอกภัทร กล่าว
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และหัวหน้าสำนักงานสมาคมชาวไร่อ้อย เขต 7 กล่าวว่า ขณะนี้ชาวไร่อ้อยต่างรอคอยวงเงินช่วยเหลือดังกล่าวเพื่อมาเสริมสภาพคล่องที่ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมาราคาอ้อยตกต่ำต่อเนื่องโดยคาดหวังว่าจะได้รับเงินดังกล่าวช่วงปลาย พ.ค. หรือ มิ.ย.นี้ ส่วนจะเป็นอัตราเท่าใดนั้นคงจะอยู่ที่กระทรวงการคลังและกระทรวงอุตสาหกรรมจะร่วมกันพิจารณา
“ยอมรับว่า ก่อนหน้านั้น ทางคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้ประเมินผลผลิตอ้อยฤดูหีบปี 62/63 จะอยู่ที่ราว 120 ล้านตัน จึงคำนวณวงเงินช่วยเหลือเป็น 10,000 ล้านบาท แต่พอปิดหีบผลผลิตอ้อยเหลือเพียง 74.89 ล้านตันอ้อยเท่านั้น เพราะเจอภัยแล้ง ทางสำนักงบฯจึงเห็นว่าอัตราต่อตันอ้อยควรจะลดลง ซึ่งทางชาวไร่อ้อยเองก็เห็นว่าวงเงินน่าจะยึดตามเดิม” นายนราธิป กล่าว
สำหรับราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูหีบปี 62/63 ยอมรับว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้ระดับราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่การคำนวณราคาอ้อยขั้นต้นที่ 75 บาทต่อตัน ได้ใช้ตัวเลขราคาน้ำตาลทรายเฉลี่ย 13.2 เซนต์ต่อปอนด์ แต่ขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกเฉลี่ย 10 เซนต์ต่อปอนด์ ดังนั้น ทางบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย จำกัด (อนท.) พยายามบริหารที่จะไม่ให้ตัวเลขขั้นสุดท้ายออกมาติดลบ ไม่เช่นนั้นยอมรับว่าระบบก็จะมีความยากลำบากในการบริหาร
นายนราธิป กล่าวว่า ผลผลิตอ้อยในฤดูหีบปี 63/64 ที่เริ่มแล้วขณะนี้ยังคงต้องติดตามภาวะภัยแล้งต่อเนื่อง แม้ว่าล่าสุดเริ่มมีฝนมาแต่ยังคงกระจุกตัวบางพื้นที่ หลายพื้นที่ยังเผชิญกับภาวะแล้งจัด ประกอบกับราคาอ้อยยังคงมีแนวโน้มที่จะตกต่ำอยู่ทำให้ชาวไร่อ้อยส่วนใหญ่ยังขาดแรงจูงใจในการเพาะปลูกใหม่ หรือบำรุงอ้อยเก่าหากประเมินผลผลิตอ้อยในระยะต่อไปที่จะมีการเปิดหีบช่วงสิ้นปีนี้ก็ยังคงเฉลี่ยที่ 75-80 ล้านตัน