xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เผยใช้สิทธิ FTA-GSP ช่วง 2 เดือนปี 63 มูลค่ากว่า 10,000 ล้านเหรียญ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมการค้าต่างประเทศเผยยอดใช้สิทธิ FTA และ GSP 2 เดือน ปี 63 มูลค่าทะลุ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11% เหตุโควิด-19 ฉุดการค้าชะลอตัว ระบุตลาดอาเซียนใช้สิทธิ FTA สูงสุด ส่วน GSP ตลาดสหรัฐฯ ใช้สูงสุด แนะผู้ส่งออกใช้ประโยชน์จาก FTA ส่งออกสินค้าเกษตร อาหาร หลังความต้องการพุ่ง ล่าสุดออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ลดภาษีอีก 455 รายการ ทำภาษีนำเข้าเหลือ 0% หมดแล้ว เป็นโอกาสเพิ่มส่งออกไทย

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ในช่วง 2 เดือน ปี 2563 (ม.ค.-ก.พ.) มีมูลค่ารวม 10,321.56 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.00% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 72.98% ของการได้รับสิทธิประโยชน์ทั้งหมด แบ่งเป็นการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA มูลค่า 9,490.92 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.93% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 72.56% และการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP มูลค่า 830.64 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.19% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 78.11%

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้มีการใช้สิทธิ FTA ลดลงมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การค้าชะลอตัวลง แต่คาดว่าไทยยังมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น โดยผู้ส่งออกควรใช้ประโยชน์จากความตกลง FTA ที่มีอยู่ 13 ฉบับเพื่อลดต้นทุนทางด้านภาษี โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเกษตร ผลไม้ อาหารแปรรูป เครื่องปรุงรส ที่มีความต้องการเพิ่มขึ้น

สำหรับรายละเอียดการใช้สิทธิภายใต้ FTA มีการใช้สิทธิรวม 11 ฉบับ ไม่รวมอาเซียน-ฮ่องกง ที่ภาษีนำเข้าส่วนใหญ่เป็น 0% อยู่แล้ว และไทย-นิวซีแลนด์ ที่ใช้ระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองของผู้ส่งออก โดยตลาดที่มีมูลค่าการใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก คือ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินเดีย

นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZFTA) ได้มีการลดภาษีเพิ่มเติม ออสเตรเลียลดเพิ่ม 215 รายการ นิวซีแลนด์ลดเพิ่ม 240 รายการ ทำให้ภาษีนำเข้าทั้งหมดของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ลดเหลือ 0% ในทุกรายการสินค้า ไทยจึงมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น ยานยนต์ ที่ภาษีลดจาก 5% เหลือ 0% แล้ว ทำให้มีการใช้สิทธิส่งออกเพิ่มขึ้น

ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP สหรัฐฯ ยังคงใช้สิทธิสูงสุด มูลค่า 761.95 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 1.57% มีสัดส่วนการใช้สิทธิ 81.84% รองลงมาคือ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย และนอร์เวย์


กำลังโหลดความคิดเห็น